Search
Close this search box.

ถ้าอยากขายซุป ต้องขายขนมปังด้วย (เหรอ)

การตลาดแบบไหนที่จะทำกำไรมากที่สุด. อาจจะเป็นคำถามที่เจ้าของธุรกิจทั้งหลายอยากได้คำตอบ อยากได้มนต์วิเศษ ที่ใช้เสกเรียกลูกค้าเข้าร้าน แต่การขายหรือทำการตลาดแบบไหนกันล่ะ ที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์แบบนั้น

หนังสือเล่มนี้จะขายดีไหม ไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่าจะทำให้ผู้อ่านทำยอดขายได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณยะมะดะ มะซะรุ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Amarin How To ด้วยจำนวนหน้าเพียง  137 หน้า อย่าเพิ่งเผลอคิดไปว่า เนื้อหาคงไม่มีอะไรมาก ขอบอกว่า เนื้อ ๆ ทั้งนั้นครับ

เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ อารมณ์จะคล้ายๆกับหลักการตลาดพื้นฐานที่คนเรียนการตลาดมา หรืออ่านหนังสือการตลาดมาน่าจะคุ้นบ้าง คือการหยิบยืมกลยุทธ์ของสินค้า หรืออุตสาหกรรมอื่นมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง นี่คือหัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้ครับ แต่คุณยะมะดะ มะซะรุ จะมาเจาะลึกลงไปว่า กลยุทธ์นี้มีกลวิธีอะไรที่ทำได้บ้าง อ่านแล้วอย่าลืมคิดถึงธุรกิจของตัวเอง ว่าจะปรับใช้ได้อย่างไร

“การค้าขายไม่ใช่การแข่งขันซูโม่ จึงไม่มีกฎข้อบังคับว่า เท้าห้ามล้ำออกจากกรอบ ห้ามเหยียบเชือก หรือถ้ามือแตะพื้นเท่ากับแพ้”

คุณควรเปลี่ยนวิธีการขายให้เข้ากับยุคสมัย อันดับแรกคิดก่อนว่าจะ “ขายอะไร” และ “ขายให้ใคร” ทำการวิเคราะห์องค์ประกอบ 3 อย่างที่เป็นพื้นฐานของวิธีการขายคือ สินค้า ลูกค้า และตัวเราเอง ว่าแต่ละส่วนอยู่ในจุดที่เหมาะสมหรือไม่

5 เทคนิคการขายนอกกรอบ

1. ขายด้วยเทคนิค “แต่”

ตัวอย่างสินค้าที่ผู้เขียนนำมาเล่าคือ การขายปลาสดในตลาดปลา แต่ ขายบุฟเฟต์ซาซิมิ , การขายเกลือ แต่ นำหลอดทดลองมาบรรจุเกลือ และแต่งร้านสวยงาม มีให้ทดลองใช้เกลือแบบต่างๆในการปรุงอาหาร , การขายเต้าหู้ แต่ ขายในงานแฟชั่น ด้วยการทำเต้าหู้รูปทรงแตกต่างกันออกไป

เคล็ดลับ 3 ข้อที่จำเป็นสำหรับการขายด้วยเทคนิค “แต่”

  • สร้าง “แต่” ด้วยการนำวิธีการขายของวงการอื่นมาใช้
  • สร้าง “แต่” ในกลุ่มลูกค้าที่ไม่น่าจะใช่กลุ่มเป้าหมาย
  • สร้าง “แต่” ด้วยพลังจินตนาการ

2. ขายด้วยเทคนิค “แผลง”

การแผลง คือการปรับการใช้สินค้าไปเล็กน้อย ไม่ได้พลิกแบบมากมาย หรือหลุดกรอบออกไป การปรับเพียงเล็กน้อย ในจังหวะที่ดี สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้มากขึ้น เหมือนการนำอุทัยทิพย์มาเติมสีแดงให้แก้มสาวๆนั่นแหละ

สินค้าเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติตัวเองได้ ขึ้นอยู่กับว่า มองจากมุมของใคร หรือ มองจากมุมใด โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสินค้าแต่อย่างใด ตัวอย่างสินค้าอย่างเช่น คนอร์คัปซุป ที่นำเสนอการทานแบบใหม่คือ นำขนมปังมาจุ่มกินพร้อมซุป , คิดแคที่ ที่เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่า “คิโตะคะสึโตะ” ที่แปลว่าชนะโลด พ่อแม่จึงนิยมซื้อคิทแคท ให้ลูกๆทานช่วงเตรียมสอบ

เคล็ดลับ 3 ข้อที่จำเป็นสำหรับการขายด้วยเทคนิค “แผลง”

  • แผลง โดยอ้างอิงประโยขน์ใช้สอยพื้นฐาน
  • แผลง โดยแฟนพันธ์ุแท้ที่ใช้ประจำ
  • แผลง โดยคนที่ไม่เคยใช้สินค้าเลย ให้ลองถามเล่น ว่า ถ้าเป็นเด็กๆจะใช้อย่างไร ถ้าเป็นแม่บ้านล่ะ พ่อบ้านล่ะ จะใช้มันอย่างไร ใช้ทำอะไร ให้ลองใช้หลักในการมองต่างมุมโดยมองจากสี่มุมคือ มุมคนที่รู้จักสินค้า มุมคนที่ซื้อสินค้า มุมคนที่ใช้สินค้า มุมคนที่ใช้สินค้าเป็นประจำ

“สิ่งที่ชี้วัดความแตกต่างของสินค้าของคุณกับคู่แข่ง “ไม่ใช่ตัวสินค้า”  หากแต่เป็น “วิธีการใช้งาน” และ “วิธีสร้างความเพลิดเพลิน” ของผู้ใช้งานจริง”

“การแผลงก็คือ วิธีการขาย ซึ่งมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับช่องว่างทางมุมมองระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ” 

3. ขายด้วยเทคนิค “สลับ”

ถ้าการแผลงคือการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้สินค้า การสลับ คือการเล่นกับ ลูกค้า การเปลี่ยนลูกค้ากลุ่มใหม่ ของที่เคยขายเด็ก ลองนำไปขายผู้ใหญ่  ตัวอย่างสินค้าคือ การนำสมุดภาพระบายสีของเด็ก ไปขายให้ผู้ใหญ่ ใช้เป็นงานอดิเรก (แถมด้วยการจัดประกวดทำให้สินค้าฮอตฮิตข้ามปี กลายเป็นเทศกาล) , การขายแว่นตาให้คนธรรมดา แทนคนมีปัญหาด้านสายตา , การเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเก้าอี้นวดไฟฟ้า จากลูกค้าบ้าน ไปเป็นออฟฟิศแทน

เคล็ดลับ 3 ข้อที่จำเป็นสำหรับการขายด้วยเทคนิค “สลับ”

  • ค้นหาความน่าทึ่งของการจับคู่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
  • วิเคราะห์ลูกค้าเสียใหม่
  • การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งจำเป็นในการ “สลับ” ลูกค้ากับสินค้า

4. มองหาวิธี “มัดใจ”

การมัดใจเป็นการใช้ปัจจัยสองส่วนคือ ความต้องการซื้อสินค้า (ความอยากได้) และ ความเชื่อมั่นในสิ่งที่เลือก เมื่อวิเคราะห์เป็นตารางจะแสดงออกมาดังภาพด้านล่างนี้ นักการตลาดจะต้องหากลวิธี พัฒนาระดับความต้องการของลูกค้า จาก 1 ไปจนถึง 4 ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้

 

วิธีมัดใจฉบับพื้นฐาน 3 ข้อ

  • ของแถม จากการซื้อสินค้า
  • ตัวอย่างทดลอง ทดลองฟรี
  • การลดราคาสินค้า/บริการ

เคล็ดลับ 4 ข้อที่จำเป็นสำหรับการขายด้วยวิธี “มัดใจ”

  • สร้างความสนุกและบรรยากาศให้อยากทดลองใช้
  • กระตุ้นพฤติกรรม สัญชาตญาณในตัวมนุษย์ อารมณ์ร่วม ประสบการณ์ ก็เป็นสิ่งมัดใจได้เช่นกัน เช่นการแข่งขันกีฬา กิจกรรมต่างๆ การคีบตุ๊กตาในตู้  สร้างเหตุการณ์ที่
    • เห็นแล้วอยากลองทันที
    • เห็นแล้วอยากเปรียบเทียบ
    • เห็นแล้วอยากสะสม
  • เน้นประสบการณ์ที่ทำให้อยากสัมผัสกับสิ่งแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน
  • มัดใจ ลูกค้าด้วยความพึงพอใจหลังจากได้ใช้สินค้า

การลดราคาโดยใช่เหตุ เท่ากับการลดมูลค่าของแบรนด์

“ถ้าจะให้ดีให้ตั้งราคาโดยสร้างเรื่องราวขึ้นมา จัดหาเหตุผล ประสบการณ์ อันเหมาะสมกับราคามานำเสนอ ไม่ใช่คิดแต่จะขายถูกเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อได้สัมผัสประสบการณ์ที่พอใจ ก็จะมีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ได้ในที่สุด”

5. ขายด้วย “โครงสร้าง”

โครงสร้างประกอบไปด้วย สินค้า ลูกค้า บริษัท และการขายด้วยโครงสร้างมีสองกระแสสำคัญคือ “การเรียกลูกค้า” เริ่มจากทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้า เพิ่มเติมความรู้ ความเข้าใจในตัวสินค้า และปล่อยให้เสียงชื่นชมของลูกค้าค่อยๆ แผ่ขยายไปทีละน้อย จากครอบครัว เพื่อน และคนที่ห่างออกไปตามลำดับ

READ  เผย 5 กระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ที่นักการตลาดควรทราบ

อีกกระแสคือ การทำให้เป็น “การใช้เป็นของคู่กาย” เพิ่มความถี่ในการใช้ เพิ่มโอกาสในการใช้ เพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการใช้งานหรือบริโภคสินค้า ทำให้สินค้าตอบโจทย์ได้หลากหลาย เพื่อที่จะได้เกิดแฟนพันธุ์แท้

ในการปรับปรุงแผนการตลาด หรือการขยายโอกาสใหม่ ให้มองถึงสองกระแสนี้เป็นเครื่องมือในการตลาด อย่าพลาด เพราะทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้ทั้งสองโครงสร้างนี้ แล้วจะเกิดตลาดใหม่ โอกาสใหม่ สำหรับคนที่กล้าคิดนอกกรอบเช่น … คุณ

สรุป วิธีการขายสินค้า มีหลายวิธีมาก บางวิธีอาจเหมาะหรือไม่เหมาะกับธุรกิจของคุณ แต่ที่แน่นอนอย่างมากคือ การขาย วิธีการขาย จะต้องได้รับการปรับปรุงเสมอ เพราะเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยน และอย่าลืม หาซื้อหนังสือมาอ่านกันเต็มๆนะครับ ดีกว่าอ่านสรุปเยอะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า