ในโลกของการทำงานนั้น การสื่อสารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทุกอาชีพ ยิ่งมีเทคนิคหรือรู้จักกลยุทธ์ในการสื่อสารดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น
เนื่องจากเราต้องทำงานกับมนุษย์ สิ่งสำคัญที่ควรจะเรียนรู้ก็คือ “จิตวิทยา” ที่ทำให้สามารถเข้าใจความเป็นมนุษย์ด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือ “วิชาการอ่านใจ”
การอ่านใจ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากทั้ง สีหน้า ท่าทาง การเคลื่อนไหว คำพูด หรือแม้แต่ปฏิกิริยาที่มีระหว่างกัน วันนี้เราจะมาสรุปสุดยอดกลยุทธ์ การอ่านใจ ฝ่ายตรงข้าม วิชาอ่านใจให้อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ลง
จุดเริ่มต้นสำคัญของการอ่านใจคือ “การสังเกต” เราจะสังเกตฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยการมอง มองว่าเขาเป็นคนยังไง มีลักษณะท่าทาง มีความชอบ หรือมีความเคยชินกับการทำสิ่งไหน แต่จุดสำคัญของการมอง คือทำอย่างไรให้เนียนที่สุด โดยที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกระแวงหรืออึดอัด ในช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเผลอ ไม่ได้สบตา หรือกำลังสนใจในสิ่งอื่น นี่เป็นโอกาสทองสำหรับคุณในการมองและสังเกต เพื่ออ่านใจฝ่ายตรงข้าม
ถ้าคุณเจอกับใครสักคนเป็นครั้งแรก แล้วในขณะที่สนทนากัน จู่ ๆ ฝ่ายตรงข้ามก็นั่งไขว่ห้างด้วยความรู้สึกสบาย คุณอาจอ่านใจได้ว่า คนแบบนี้คือคนที่ไม่ได้เข้มงวดกับการใช้ชีวิตมากนัก หรือถ้าคุณสังเกตของใช้ของใครบางคน แล้วเห็นว่าของที่เขาเอาออกมาจากกระเป๋านั้นเต็มไปด้วยสายที่พันกันพะรุงพะรัง คุณอาจอ่านใจได้ว่าเขาไม่ใช่คนที่มีความเป็นระเบียบในชีวิตมากนัก
ยกตัวอย่างสถานการณ์การแลกนามบัตร ถ้าคุณเข้าไปประชิดตัวฝ่ายตรงข้ามเพื่อยื่นนามบัตรให้ แต่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีตกใจ อาจวิเคราะห์ได้ว่าคนแบบนี้คือประเภทที่ค่อนข้างเชื่อใจคนอื่น และเข้าถึงได้ง่าย ในขณะเดียวกันถ้าคุณเข้าไปประชิดตัวใครสักคนแล้วเขารีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว อาจวิเคราะห์ได้ว่าเขาเป็นคนประเภทที่ต้องใช้เวลาในการทำความรู้จัก หรือไม่ได้ไว้ใจใครง่าย ๆ
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้รู้ว่าควรวางตัวหรือรับมือกับคนประเภทนี้ต่อไปอย่างไร ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่าย ๆ ในครั้งต่อไปคุณก็ควรที่จะต้องทำบางอย่าง เพื่อสร้างความไว้ใจ และความเชื่อมั่นที่จะทำให้อีกฝ่ายต้องการร่วมงานกับคุณ
ระยะห่างทางกายตอนแลกนามบัตร = ระยะห่างทางใจของอีกฝ่าย
การสังเกตยังช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดี ถ้าหากเห็นลูกค้าที่เดินเข้าร้านมาแล้วไม่ได้สบตากับใคร อาจแปลว่าเขาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ และอยากใช้เวลากับตัวเองในการดูสินค้าเหล่านั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสบตาคุณ นั่นหมายถึงว่าเขาอาจมีคำถามบางอย่าง ซึ่งนั่นก็เป็นจังหวะที่คุณจะรู้ได้ว่า “ถึงเวลาที่ฉันต้องออกโรงแล้วสินะ”
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า “ระยะห่าง” เป็นอีกสิ่งสำคัญในการอ่านใจ ในขณะเดียวกันระยะห่างก็เป็นจุดที่กำหนดความสัมพันธ์ของคุณกับฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรับประทานอาหารแล้วนั่งตรงข้ามกัน คุณอาจจะได้คุยกันแค่เรื่องงาน แต่ถ้าหากลองเปลี่ยนมานั่งโต๊ะแบบบาร์ข้าง ๆ กันแล้ว คุณอาจได้เปิดใจคุยกันเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงาน และนั่นแหละคือจุดที่จะทำให้คุณสามารถอ่านใจเขาได้มากขึ้น และมีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้มากขึ้นด้วย
สำหรับพนักงานขายถ้าคุณลองเปลี่ยนวิธีจากยืนแนะนำตรงข้าม มาเป็นยืนด้านข้างและ Support ความคิดของอีกฝ่าย จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณเป็นเหมือนเพื่อนที่อยากแนะนำสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน มากกว่าเป็นพนักงานขายที่อยากจะทำยอดให้สำเร็จ
ปฏิบัติกับลูกค้าเหมือนเป็นเพื่อนคนสำคัญที่มาเลือกซื้อของด้วยกัน…
วิชาอ่านใจที่จะทำให้อีกฝ่าย Say Yes
หนังสือเล่มนี้ได้พูดถึงวิธีมากมายที่จะทำให้การขายของคุณประสบความสำเร็จ อย่างแรกเลยคือ “การสร้างความไว้ใจ” โดยการเล่าเรื่องส่วนตัวบางอย่างของตัวเอง หรือเรื่องที่เคยทำผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ สิ่งนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณเปิดใจ และอยากจะเล่าเรื่องราวของตัวเองบ้างเช่นกัน
การกล้าที่จะพูดข้อเสียของตัวเอง หรือข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสินค้า จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเชื่อถือ และรู้สึกได้ถึงความสมเหตุสมผล มากกว่าที่จะได้ยินแต่สรรพคุณหรือข้อดีของสินค้านั้นอย่างเดียว หนังสือเล่มนี้ได้ยกตัวอย่างการพูด โดยให้นำจุดที่เป็นข้อเสียไว้ด้านหน้าแล้วจบประโยคด้วยข้อดีของสิ่งนั้น เพราะสมองของมนุษย์จะจดจำคำพูดที่อยู่ด้านหลังมากกว่าด้านหน้า เหมือนเวลาเราดูหนังที่ตอนแรกอาจจะมีอุปสรรคบ้างแต่สุดท้ายก็จบลงแบบ Happy Ending นั่นเอง
รองพื้นรุ่นนี้ขนาดจะใหญ่นิดนึง แต่ปกปิด และคุมมันได้ดีมากเลยค่ะ…
นอกจากความเชื่อใจแล้ว มนุษย์ยังมีความรู้สึกที่อยากจะตอบแทนหรือขอบคุณเวลาที่เห็นความจริงใจจากอีกฝ่าย หากคุณลองใช้วิธีการขายโดยบอกว่า “เดี๋ยวอีก 2 สัปดาห์สินค้าตัวนี้จะลดราคา ไว้ค่อยมาซื้อตอนนั้นก็ได้ค่ะ” คำพูดแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณจริงใจ และอยากจะกลับมาซื้อสินค้าตัวนั้นกับคุณ เพื่อเป็นการตอบแทนความจริงใจดังกล่าว ถ้าจะมองแบบเป็นแผนแล้ว วิธีนี้คือแผนระยะยาวที่ได้ผลอย่างน่าประทับใจทีเดียวเลยล่ะ
ในหนังสือเล่มนี้ยังมีวิธีการอ่านใจอีกมากมายที่เหมาะสำหรับคนหลาย ๆ อาชีพ และหลาย ๆ สถานการณ์ในการทำงาน เริ่มตั้งแต่การทำความรู้จัก การพรีเซนต์ การขายงาน หรือการใช้กลยุทธ์ที่จะทำให้อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ลง ซึ่งทุกส่วนล้วนมีพื้นฐานมาจากการใช้จิตวิทยาในการทำความเข้าใจมนุษย์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าใจมนุษย์ คุณก็จะสามารถแสดงออกได้อย่างเหมาะสมกับช่วงเวลาและสถานการณ์นั้น บางอย่างหรือบางวิธีที่คุณใช้อาจจะไม่ได้แสดงผลลัพธ์ในทันที แต่มันจะมีผลในระยะยาวกับตัวคุณอย่างแน่นอน