โมโหเท่าไหร่ ทำร้ายตัวเองเท่านั้น ในหนังสือ ชีวิตไม่ง่าย แต่รับมือได้ไม่ยาก กล่าวว่าคนขี้โมโห 1 ใน 10 คน มักป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ แต่ถ้าเปลี่ยนนิสัยให้ใจเย็นลง อัตราเสี่ยงป่วยเป็นโรคหัวใจจะลดลงถึง 50% เท่ากับว่าความโกรธที่อาละวา ใส่ผู้อื่นมากเท่าไหร่ผลเสียจะย้อนกลับมาที่สุขภาพของเรามากขึ้นเท่านั้น
เวลาโกรธจัด ตะกอนแห่งความโกรธจะเปลี่ยนคุณสมบัติเป็นพิษร้ายแรงถึงขนาดสังหารผู้อื่นได้คนที่ยิ่งโกรธยิ่งแสดงอารมณ์ออกมา จึงเปรียบเหมือนงูพิษที่กำลังรีดพิษร้ายทำร้ายคนอื่น แต่รู้หรือไม่ว่า ยิ่งโกรธเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการทำร้ายตัวเองมากขึ้นเท่านั้นไม่ใช่การเอาชนะผู้อื่นได้เลย
เมื่อคุณเริ่มจะโมโห ให้เปลี่ยนเป็นการแสดงความรักโดยเริ่มจากการไม่เห็นแก่ตัวเพราะการได้ปกป้องและเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นนอกจากจะทำให้เราสุขใจแล้ว ความรักก็ยังส่งผลดีต่อตัวเราเองในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับความโกรธเลยทีเดียว
ถึงแม้ชีวิตจะมีความท้าทายและอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีและพร้อมจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมีสติ เราก็สามารถผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบาก ความผิดหวัง หรือความสูญเสียใด ๆ ก็ตาม ชีวิตคือการเดินทางที่มีทั้งขึ้นและลง มีทั้งความสุขและความทุกข์ผสมผสานกัน การยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์จะช่วยให้เราเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
อย่าลืมว่า ไม่มีใครสามารถผ่านชีวิตไปได้โดยปราศจากอุปสรรค แต่สิ่งสำคัญคือวิธีการที่เราเลือกจะจัดการกับมัน ให้มองโลกในแง่ดี มีกำลังใจ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคนั้น ๆ เพราะทุกสิ่งล้วนผ่านพ้นไปได้ ชีวิตอาจไม่ง่าย แต่ถ้าเรามีความตั้งใจและพยายาม เราก็สามารถรับมือได้ไม่ยากเลย