“ไม่รู้จะเขียนอะไรดี?” นี่น่าจะเป็นคำบ่นมากกว่าคำถาม ของใครหลายๆ คนที่อยากเริ่มต้นเขียนบทความ ไม่ว่าจะเพื่อเข้าสู่อาชีพสายนักเขียน หรือว่าจะเป็นการเขียนสร้างตัวตน เขียนสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าตัวเองก็แล้วแต่ ซึ่งบ่อยครั้งมีคนจำนวนมากมายตบเท้าเข้าสู่เส้นทางอาชีพนี้ แล้วก็ต้องฝันสลายออกไปเพราะ ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดีนี่แหละ ดังนั้น วันนี้เพื่อเป็นไกด์ เป็นแนวทางให้สำหรับใครก็ตามที่อยากลองสักตั้งหนึ่งกับการเป็นนักเขียน เราจะไปดูกันว่า สำหรับมือใหม่แล้วนั้น เราจะเริ่มต้นด้วยการเขียนบทความแนวไหนได้บ้าง ให้ได้ดี!!
1. ที่ใดมีรัก ที่นั่นจักมีเรื่องอะไรดีๆ ให้เราเขียนเสมอ
แน่นอนว่าโลกเรามิอาจขาดความรักได้ และในความรักเองก็มีหลากหลายมิติหลายประเด็นเหลือเกินให้เราได้เขียนได้เล่าถึงแบบที่ไม่มีวันหมด ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่อยากจะลองเริ่มต้นเขียนบทความดู แล้วไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีล่ะก็ “ความรัก” นี่แหละครับ คือหนึ่งในประเด็นที่เปิดกว้าง และเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัยมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบหนุ่มสาว ความรักแบบเพื่อน ความรักแบบพี่น้อง ความรักแบบคนในครอบครัว รักสามเศร้า รักสมหวัง รักต่างวัย รักผิดหวัง รักไม่มีวันตาย ฯลฯ สารพัดเรื่องราวความรักที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ชีวิตคนรอบข้าง ชีวิตคนรู้จัก ชีวิตคนอื่นที่เรามีโอกาสเข้าไปประสบ ฯลฯ ทุกอย่างสามารถหยิบยกมาเขียนเล่า ให้แง่คิด สอนใจ หรืออะไรก็ได้ทั้งหมด ซึ่งเหลือเหลือเกินว่า ถ้าเริ่มต้นด้วยการเขียนบทความแนวความรักแล้วล่ะก็ เราจะไม่กดดันมากเท่าไรกับการตีบตันประเด็นที่จะเขียน และจะทำให้เราฝึกเยนได้อย่างต่อเนื่องอย่างมีวินัยอีกด้วย
2. ชีวิตหาเช้ากินค่ำ วงจรชีวิตที่ย่ำอยู่กับการทำงานตลอดชีวิต
มีใครบ้างครับที่ไม่มีงานทำ? และสำหรับคนที่ไม่มีงานทำ มีใครบ้างครับที่ไม่อยากหาอะไรทำ? เรื่องงานกับชีวิตคนเราถือได้ว่าแยกจากกันไม่ออก เพราะหากไร้แล้วซึ่งงาน ชีวิตคนเราก็ไร้ค่า ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากับข้าว 3 มื้อ เรียกได้ว่าไม่มีจ่ายจนถึงขั้นอดตายเอาง่ายๆ ก็ได้ ดังนั้น หัวข้อเรื่องงานนี่แหละ ที่จะเป็นหัวข้อเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นหัดเขียน เพราะตัวเราเองก็ทำงาน
ในทุกๆ วันที่เราทำงาน ลอง List บางช็อต ลองโน้ตบางตอนของชีวิตการทำงานของเราออกมาดู ไม่ว่ามันจะทุกข์ เศร้า สมหวัง ผิดพลาด หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็จะทำให้เราสามารถเขียนบทความได้ทุกวันแล้วชนิดที่ไม่มีวันหมด แนวทางการเขียนบทความเกี่ยวกับการทำงานนั้นหลากหลายมาก ไล่ไปตั้งแต่เทคนิคการทำงาน ปรัชญาการทำงาน แนะนำการพัฒนาตัวเองเรื่องงาน สัมภาษณ์งาน เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ
สารพัดจะมีประเด็นให้เล่ามากมายจนแทบจะบอกว่า “ไม่รู้จะเขียนหัวข้ออะไรก่อนดี” แถมประเด็นเรื่องการทำงานนี้เอง ก็ถือว่าแมสและเข้าถึงผู้คนได้ไม่ยากเลย เพราะเราต่างก็มีชะตากรรมเดียวกัน และพร้อมจะอยากฟังอยากอ่านว่า ใครมันจะมีชีวิตการทำงานที่ …..!! แบบเราบ้าง ดังนั้น อย่ารอช้าครับ ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไร พรุ่งไปทำงานแล้วเจอเรื่องอะไรกระทบใจอย่างแรกนั่นแหละ หยิบมาเขียนเล่าได้เลย
3. เงินๆ ทองๆ เรื่องที่ทุกคนพร้อมมองหาอ่านเสมอตลอดกาล
มีใครบ้างครับที่ไม่อยากได้เงิน ไม่อยากมีรายได้เพิ่ม ไม่อยากร่ำรวย เพราะเงินนำมาซึ่งโอกาสในการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าบทความอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่เขียนบอกวิธีรวย วิธีประหยัด วิธีวางแผนการเงิน ฯลฯ มักจะได้รับความนิยมเสมอ
แต่ทั้งนี้ หัวข้อเรื่องเงินนั้นอาจจะไม่ง่ายสักเท่าไร เพราะถ้าเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแล้วล่ะก็ อาจจะตีบตันได้บ้าง แต่ถ้าเราไม่ได้เขียนในเชิงลึกแบบนั้น แต่เขียนแนวทางการเก็บออมเงินของตัวเอง แนวทางการทำรายได้เสริมของตัวเอง แนวทางการใช้บัตรเครดิต เขียนรีวิวชีวิตตัวเองในวันถังแตก ว่าทำอะไรยังไงถึงได้กระเป๋าแบนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หรือเขียนรีวิวชีวิตตัวเองว่าทำอย่างไรถึงร่ำรวยขึ้นมาได้ ฯลฯ อะไรทำนองนี้ก็พร้อมจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเสมอ
เพราะอย่างที่บอกครับ เราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดก็ได้ แต่เราแค่ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง ที่เป็นความจริงให้เห็น ก็สามารถทำประโยชน์ได้แล้ว และแน่นอนครับว่า บทความที่มีประโยชน์นั่นคือบทความที่พร้อมจะได้รับความสนใจอย่างไม่ยากเย็นอะไรเลย
4. เรื่องกิน เรื่องเที่ยว จะเขียนแยกหรือเขียนเดี่ยวก็ดีทั้งนั้น
ทุกวันนี้แม้เพจรีวิวของกิน รีวิวสถาที่ท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นมามากน้อยแค่ไหน แต่กระแสตอบรับก็ยังถือว่าไม่ค่อยตกลงเลยอยู่ดี ทั้งนี้ เพราะวิธีการเล่าเรื่องของแต่ละคนนั้นต่างกัน มุมมองของแต่ละคนที่มีต่อรสชาติอาหาร หน้าตาอาหาร และความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นต่างกัน จึงทำให้อาหารร้านเดียวกันสามารถถูกรีวิวออกมาได้เป็นร้อยๆ พันๆ รูปแบบ เช่นกันกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เดียวกัน ที่สามารถถูกรีวิวได้หลายมุมเด่นเหลือเกิน
นั่นจึงทำให้การเริ่มต้นด้วยบทความรีวิวเรื่องกินเที่ยวดื่มนั้น เป็นอะไรที่สามารถทำได้เลยทันที และค่อนข้างที่จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีได้ง่าย อันจะเป็นกำลังใจให้กับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหัดเขียนบทความ อย่างไรก็ตาม สำหรับบทความประเภทนี้ ไม่สามารถใช้เพียงแค่ “ตัวอักษร” ได้เท่านั้น เพราะต่อให้เราจะพรรณนาดีแค่ไหน จะเขียนบรรยายดีแค่ไหน ก็จะถูกบทความที่มีรูปอาหารสวยๆ น่าทาน สถานที่ท่องเที่ยวงามๆ หน้าไปแย่งซีนไปได้ทั้งหมด
จริงอยู่ที่หากการเขียนเล่าเรื่องนั้นทำได้ดี มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้คนสนใจ แต่สำหรับบทความประเภทนี้แล้ว การมีรูปภาพประกอบที่สวยงาม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้มากที่สุด ยิ่งมีการถ่ายวีดีโอ นำเสนอดีๆ มีมุมมองการเล่าภาพที่เก๋ไก๋แตกต่างแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจได้อย่างมหาศาล
5. สุขภาพและการออกกำลัง เรื่องที่กำลัง Hot!! Hit!! ติดกระแส!!
นับได้ว่าเป็น Topic ที่ได้รับความนิยมมาหลายปีแล้ว และก็ยังคงจะได้รับความนิยมต่อไปอีกนานหลายปี ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างประกอบกัน ทั้งเรื่องของเทรนด์ผู้สูงอายุ ที่เข้ามามีบทบทต่อการดึงความสนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ให้ไม่เจ็บป่วยไข้ ให้สามารถมีชีวิตวัยเกษียณได้อย่างสงบสุข รวมไปถึงกระแสของความสวยความงาม การมีรูปร่างที่สมาร์ท สมส่วน หุ่นดี มีเสน่ห์
ซึ่งประเด็นนี้ในทางการตลาดนั้น ถือเป็นเรื่องของ “แรงขับทางเพศ” ที่สัญชาตญาณคนเรานั้น ต่างต้องการถูกรัก ต้องการเป็นที่ยอมรับหลงใหล นั่นจึงทำให้เทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองนั้นมาแรงมากๆ แม้สาระสำคัญจะอยู่ที่ “การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์” แต่โดยมากแล้ว ก็มีเรื่องของการอยากมีหุ่นดีเป็นที่จับจ้องมองตาม ผลักดันอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น นี่จึงเป็นหนึ่งในหัวข้อที่มือใหม่สามารถหยิบยกขึ้นมาเขียนได้ โดยอาจจะอาศัยการค้นคว้าข้อมูลเอง หรือใช้การรีวิวชีวิตตัวเองกับประสบการณ์การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย หรือการรักษาโรคก็ได้ มาต่อยอดเป็นเรื่องเล่าออกไปสู่สังคม
5 แนวทางที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเขียนแค่อย่างใดอย่างเดียว เราสามารถที่จะทดลองฝึกซ้อมฝึมือ เขียนทุกแนว สลับไปมาก็ได้ เพื่อค้นหาว่าตัวเรานั้น อิน และสนใจกับเรื่องอะไรมากที่สุด เพราะที่สุดแล้วของการเขียน คือการเขียนในสิ่งที่เราสนใจมัน เพราะเมื่อมีความสนใจเราจะมีแรงใจเขียน จะมีแรงใจค้นหาข้อมูล และจะมีแรงใจสร้างวินัยเขียนมันได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ จับประเด็น สร้างสรรค์ประเด็น เรียบเรียง และค่อยๆ เขียนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลยในฐานะการเป็นนักเขียนก็คือ “สิ่งที่เราเขียนต้องเป็นความจริง เป็นประโยชน์ และไม่ให้โทษต่อผู้อ่าน” หากเรายึดหลักการเหล่านี้ไว้ แล้วค่อยๆ ฝึกเขียนต่อไป เราก็จะพบว่า เพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นครับ ไม่นานกว่านี้หรอก หากเราเขียนได้ทุกวัน เราก็พอจะรู้แล้วแหละว่า เราจะสามารถเดินอยู่บนเส้นทางของสายอาชีพนักเขียนนี้ได้ต่อไปหรือไม่ หรือว่าอีกนานแค่ไหน
แนะนำบทความเกี่ยวกับการเขียน
- การเขียนบทความคุณภาพควรยาวแค่ไหน
- เขียนบทความลงเพจอย่างไรให้ขายของได้
- Story Telling กำไรร้อยเท่าแค่มีเรื่องเล่าที่โดนใจ
- เสียดายคนเป็นนักเขียนไม่ได้อ่าน เทคนิคจากคุณดังตฤน
Add friend Line@ Work360
รับฟรี Ebook สรุปหนังสือ 3 เล่ม
พร้อมเข้ากลุ่มเรียนฟรีการตลาดออนไลน์
ทั้ง Facebook YouTube Website
☑️ U R a Brand
☑️ Follow Your Heart
☑️ ขโมยให้ได้อย่างศิลปิน
รับฟรีคลิกเลย https://line.me/R/ti/p/%40work360