Visual Thinking คือการแสดงออกทางความคิด เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากเมื่อเราทำงานเป็นทีม เพราะการแบ่งปันความคิด โดยใช้ภาพเข้าช่วย จะทำให้เราสื่อสารได้ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่าการพูดคุยหรือเขียน
ดังนั้น เราจึงเพิ่มประสิทธิผลของกลุ่ม Visual Thinking เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม สำหรับวิธีการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking)โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการผลิต และนั่นคือเหตุผลที่เราใช้สอนในระหว่าง workshops
ในปัจจุบัน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่ใช้กันมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน ตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุดของ Visual Thinking คือ ภาพวาดในถ้ำที่ผู้ชายล่าสัตว์
Visual Thinking เป็นเครื่องมือที่เหมาะสม มีต้นกำเนิดในปี 1969 โดยมีการตีพิมพ์หนังสือ Visual Thinking ที่เขียนโดย Rudolf Arnheim นักจิตวิทยาและนักฟิสิกส์จากเยอรมนีและศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งศิลปะแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
แม้ว่า Arnheim จะเป็นบิดาของศัพท์นี้ แต่ Dan Roam ผู้เขียนหนังสือ “The back of the Napkin” ก็ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในเรื่องนี้
Dam Roam ใช้เครื่องมือนี้เป็นกระบวนการ 4 ขั้นตอน ซึ่งช่วยให้เราใช้ศักยภาพของ Visual Thinkingได้ดีขึ้น ได้แก่ การสังเกตุ, การดูแล, จินตนาการ และการแสดง
อีกทั้ง บริษัทที่ประสบความสำเร็จหลายแห่งได้นำเครื่องมือนี้มาใช้กับกระบวนการสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น Apple, Google หรือ Ebay รวมทั้งบริษัทขนาดเล็กและผู้ประกอบการด้วย
เหตุผลและข้อดีหลักๆของการใช้ Visual Thinking
1.สมองของมนุษย์ประมวลผลข้อมูลภาพได้เร็วกว่าข้อความถึง 60,000 กล่าวคือการแสดงภาพใช้ความพยายามน้อยกว่าการอ่านคำ
2.ภาพช่วยในการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุที่เราอาจมองไม่เห็น และสามารถสร้างแนวคิดใหม่ๆ
3.เราวาดภาพมาตั้งแต่เรายังเล็กและถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่ศิลปินใหญ่ แต่ก็มีความสามารถมากในการสร้างภาพวาดพื้นฐาน เพื่อแสดงแนวความคิด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการสื่อสารได้
Resource: https://designthinking.gal