อยากเป็นคนเก่งที่ประสบความสำเร็จ ต้องให้เวลาฝึกและพัฒนาทักษะในการคิด วิเคราะห์ คิดสิ่งใหม่ คิดแก้ปัญหา หนังสือกลุ่มนี้มีเยอะนะครับ แต่อาจจะอ่านกันไม่จบ เพราะเนื้อหาไม่สนุกนัก แต่ขอบอกเลยว่ามันได้ประโยชน์มาก ๆ เพราะคุณต้องคิด ไปทั้งชีวิต คุ้มค่ามากครับ ที่จะเสียเวลาเรียนรู้เรื่องนี้
ศิลปะการคิดใหม่ เปลี่ยนชีวิตคุณได้อย่างไร หนังสือดีที่แอบอ่านยากนิดหน่อย แต่ผู้แปล เรียบเรียงได้สวยงาม ใช้ภาษาที่ดีมาก จนอาจจะมากเกินไป ต้องเรียบเรียงใหม่ในหัวอีกทีว่า เอะ หมายความว่าอย่างไร รูปเล่มที่ได้มา แบบว่า เป็นหนังสือดีมาก กระดาษดี อาร์ทเวิร์คสวย อ่านแล้วไม่กล้าขีดเส้นเลย
เนื้อหาโดยรวม เล่าถึงการคิดไอเดียใหม่ ๆ ข้อสังเกตทั้ง 20 ข้อ ที่เกิดจากประสบการณ์ของผู้เขียน จอห์น ฮันต์ ที่มีประสบการณ์ทำงานระดับโลก เรียกได้ว่า เปลี่ยนโลก ด้วยความคิดเลยก็ว่าได้ และนี่คือ 20 ข้อสังเกต ที่เราเรียบเรียงสรุปมาฝากครับ
จงเลือกหนทางที่ดูดีที่สุดเสมอ
ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด
เมื่อคุ้นชินแล้ว ไม่ช้าก็จะง่าย
และเพลิดเพลิน …. พิธากอรัส
ข้อสังเกตหมายเลข 1
คุณมี คนมีคนแบบรุ่งอรุณหรือ หรือคนแบบตะวันลับฟ้า
ในบทเรียนนี้ต้องการสื่อว่าคนเรามีอยู่ 2 กลุ่มคือ คนที่คิดมองเห็นอะไรแต่เรื่องดี ๆ และอีกกลุ่มหนึ่งคือ คนที่คิดและมองเห็นแต่ปัญหา ทั้งสองคนนี้ไม่มีทางที่จะเป็นคนคนเดียวกันได้ เราจำเป็นต้องรู้ว่า คนที่เรากำลังคุยด้วยเขาอยู่ในกลุ่มคนแบบไหน
เราอย่าไปเล่าไอเดียความคิดดี ๆ ให้กับคนแบบตะวันลับฟ้าฟัง เพราะคนแบบตะวันลับฟ้าไม่ได้ประหารความคิด พวกเขาเพียงแต่พรากเอาออกซิเจนที่โอบอุ้มมันออกไป คนแบบตะวันลับฟ้าสัมผัสได้ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำพูดใด ๆ เสียอีก
พวกเขาจะทำให้พลังงานที่อยู่ในรอบห้องระเหยออกไปหมด เขาไม่โจมตีที่ตัวความคิด แต่โจมตีทัศนคติที่รายล้อมมัน และเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ความคิดใด ๆ จากพวกเขา
ข้อสังเกตหมายเลข 2
หนูเลมมิงก็มีแผนการณ์เหมือนกัน
เป็นเรื่องยากมากที่จะได้ความคิดสดใหม่ จากผู้ที่เสพติดกิจวัตร จังหวะความคิดของพวกเขายังอยู่ซ้ำ ๆ พวกเขาไม่เห็นว่าการทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน คือความเคยชิน พวกเขาชอบคำว่า ความอยู่กับร่องกับรอย และความต่อเนื่อง
พวกเขาสบายใจกับความเหมือนเดิมปีแล้วปีเล่า พวกเขาภาคภูมิใจกับมัน การทำงานกับคนกลุ่มนี้ก็เหมือนกับกลุ่มของหนูเลมมิง ที่แผนของมันก็คือการไม่มีแผนนั้นเอง
ข้อสังเกตหมายเลข 3
ความคิดมีหลายอารมณ์
ความคิดไม่ได้เกิดขึ้นในสูญญากาศ มันรู้สึกไวต่อสิ่งแวดล้อม และมักเป็นไปตามอารมณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าอยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยคนที่หวั่นกลัว คนเหล่านี้มีแนวโน้มจะให้ความคิดอย่างผิวเผินและฝืด ๆ
แต่ถ้าอยู่ในที่เงียบสงบ เป็นสถานการณ์ที่เป็นกันเอง คนเหล่านี้อาจจะให้ความคิดที่หลากหลาย ให้ความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้นก็ได้ บ่อยครั้งที่เมล็ดพันธุ์ความคิดใหม่ ฟังดูโง่เขลา แต่นั่นแหละคือที่อยู่ของความคิดริเริ่ม เพียงแต่ต้องการเวลาและการถกเถียงกันเพื่อให้มันเติบโตไป
ข้อสังเกตหมายเลข 4
ต่อหน้าความคิดเราทุกคนเท่าเทียมกัน
ใคร ๆ ก็เกิดความคิดได้ ถ้าเราเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกัน ผู้คนและบริษัทส่วนใหญ่มีนักคิดสดใหม่อยู่รอบตัวอย่างมากมาย แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะใช้งานคนเหล่านี้ เพราะพวกเขาปฏิเสธการคิดข้ามสายพันธุ์ พวกเขาเชื่อว่าเราไม่ได้เท่าเทียมกันต่อหน้าความคิด พวกเขาไม่เข้าใจว่ามุมมองใหม่อาจมาจากที่ใดก็ได้
ข้อสังเกตหมายเลข 5
ตรรกะคือธาตุคริปโตไนท์
ถ้าความคิดเปรียบเสมือนซุปเปอร์แมนสิ่งที่เราเรียกว่า ตรรกะก็คือธาตุคริปโตไนท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายความคิดไอเดียได้อย่างดี เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายึดติดกับเหตุผลยึดติดกับรูปแบบความคิดแบบเดิม ๆ ที่เรามักเรียกว่าตรรกะ ก็เป็นไปได้ยากที่ความคิดใหม่จะเกิดขึ้นได้
ข้อสังเกตหมายเลข 6
การใช้ Google ฉันจึงเป็นฉัน (เสียเมื่อไหร่)
โลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล เราเลยคิดว่าสิ่งที่เราเสพเข้าไป ข้อมูลที่เราได้อ่านตัวหนังสือ คลิปวีดีโอที่เราได้เสพเข้าไป มันทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวเรามันทำให้เรารู้สึกว่าเรารู้ทุกอย่าง นี่คือปัญหาการจัดเก็บขนาดมหึมาระดับโลก เพราะเราจะสับสนระหว่างปริมาณกับเนื้อหาที่เป็นสาระ เรากลายเป็นทาสของข้อมูลแต่กระนั้นสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ คือ การเข้าถึงแก่นสารระดับสูงในข้อมูล
ข้อสังเกตหมายเลข 7
วางใจสัญชาตญาณของคุณหรือปล่อยให้มันหายไป
การศึกษาที่ดีไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ดูเหมือนมันจะมาพร้อมราคาที่น่าตกใจ การศึกษาสูงมักไม่ทำให้เรามีความสุขกับการวางแผนไปบนหน้าผาของสัญชาตญาณ การฟังเสียงภายในของตน การลองเสี่ยงหรือเชื่อ เพราะความรู้สึกว่าน่าเชื่อฟังดูชอบกลเกินไป
ข้อสังเกตหมายเลข 8
การเปลี่ยนแปลงที่ค่อย ๆ เปลี่ยนนั้นดีถ้าคุณเป็นธารน้ำแข็ง
ความคิดที่ก้าวไกลจำนวนมหาศาลไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะความคิดนั้นผิด แต่เพราะในช่วงสำคัญ ความกล้าหาญได้หายไปจากเรา เราสังเกตเห็นว่าเราอยู่สูงมาก เรามองลงไปทันใดนั้นเราก็สงสัยว่านี่เป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่
เมื่อเราปล่อยเวลาผ่านไป ความคิดก็จะเคลื่อนที่ช้าลงไม่อาจรักษาแรงเฉื่อยไว้ได้ แล้วร่วงหล่นลงไปปัญหาของการค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงคือมันขาดความเร็ว เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงลงเอยด้วยการทำหน้าที่ราวกับหลุมดำที่กำลังจะตาย มันดึงดูดพลังงานเข้าสู่ตัวเองได้น้อยลงเรื่อย ๆ แล้วก็หายลับไป
ความคิดเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ เปลี่ยน มันจะจางไปทันทีเพิ่งได้มันมา เพราะพลังงานเข้มข้นที่จะพามันไปต่อได้มีไม่เพียงพอ เหตุใดต้องลงแรงกับการเปลี่ยนแปลงเพียงชายขอบด้วยเล่า
ข้อสังเกตหมายเลข 9
การถือเอาความสะดวกไม่ใช่การใช้ความคิด
ความสะดวกได้ชัยชนะบ่อยมากเพราะสิ่งที่เห็นอยู่แล้วถูกมองข้ามไป ความคิดใหม่จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมันทำให้คนรู้สึกปั่นป่วนอยู่บ้าง รู้สึกว่ามันน่าจะขายได้ยาก แต่ความรู้สึกเหล่านี้นับเป็นสัญญาณที่ดี แต่ว่าความคิดใหม่นั้นมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ในตัว และสิ่งที่ทำให้สิ่งมีชีวิตในสปีชีส์ของเราอยู่มาได้ ก็คือการโต้กลับอย่างรุนแรงก่อนที่จะได้รับการยอมรับ ซึ่งคุณจะไม่ได้สิ่งเหล่านี้เลยถ้าคุณยึดเอาความสะดวกเป็นหลัก
ข้อสังเกตหมายเลข 10
จงโอบกอดความหลากหลายแล้วมันจะกอดคุณกลับ
ประโยชน์ของการโอบรับความหลากหลายนั้นเห็นได้ชัดทันที และจับต้องได้ แค่เพียงเดินเข้าไปในห้องที่มีคนผสมผสานกันอย่างแท้จริง คุณจะรู้สึกได้ถึงพลังงานที่แตกต่าง การประชุมยังไม่ทันเริ่ม แต่ความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นสำเนียงการพูดหรือการแต่งกาย ก็ได้สร้างผลให้เห็นแล้ว มันเป็นห้องที่น่าสนใจมากขึ้น จิตใจจะเปิดกว้างอย่างอัตโนมัติขณะปรับตัวเพื่อซึมซับสิ่งเร้าใหม่ ๆ
ข้อสังเกตหมายเลข 11
การคิดใหม่คือชั่วขณะแห่งการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ที่ผลักดันโครงการอนาคตที่มีศักยภาพ แม้แรก ๆ แทบไร้ตัวตน แต่ก้าวไปในอาการที่จับต้องได้
ปัญญาชนจอมปลอมไม่รู้จักความคิดใหม่ ต่อให้เขานั่งทับอยู่ก็ตาม เมื่อถกเถียงกันเขาจะรู้ทันทีว่า ความคิดไหนทำให้เขาดูเก่งและฉลาด เขาจะเข้าไปถกเถียงในประเด็นนั้น ประโยคที่เขาชอบพูดคือ “ผมคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังพูดคือ”
หากมีปัญญาชนจอมปลอม 2 คนอยู่ในห้อง คุณมีโอกาสที่จะล้มเหลวหรือยืดเวลาประชุมไปเป็น 2 เท่า ภายในเวลาไม่กี่วินาที พวกเขาจะเริ่มผลักอีกฝ่ายไปอยู่มุมตรงข้าม สำหรับพวกเขาแล้วรูปแบบความอับอายสูงสุด คือการเห็นพ้องกับคนอื่น การโต้แย้งและถกเถียงไม่ใช่หนทางสู่เป้าหมาย แต่มันคือเป้าหมายของพวกเขา
ความเงียบคือสถานที่สมบูรณ์แบบ ที่ความคิดก็เกิดและเติบโตได้ หลังการถกเถียงเรื่องเรื่องเดิมผ่านไปหลายชั่วโมง คุณจะพบว่าบทสนทนาที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้น เมื่อไม่มีใครพูดอะไรเลย
ข้อสังเกตหมายเลข 12
อย่าทาลิปสติกให้หมู
ไม่มีอะไรทำร้ายแรงขับเคลื่อนไปได้มากกว่าการเรียกประชุมคนกลุ่มนึง แล้วบอกพวกเขาว่า พวกเขาต้องคิดอะไรตรงไหน การจับกลุ่มระดมสมองไม่เคยเป็นแหล่งกำเนิดความคิดที่ดีได้ มันมีแต่ทำลายทำร้ายความคิดเสียมากกว่า ถ้าคุณจะระดมสมองครั้งต่อไป ขอให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกคนเข้าประชุมได้ถูกต้อง
ข้อสังเกตหมายเลข 13
คิดถึงตำรวจความคิด
ทุกกลุ่ม ทุกครอบครัว ทุกองค์กร มีสิ่งที่เทียบได้กับตำรวจความคิด คนเหล่านี้คือผู้รู้แบบฉบับดั้งเดิม ความคิดของพวกเขามีอยู่เพื่อเปล่งเสียงว่า อะไรเป็นอย่างไร ด้วยท่าทีราวกับว่า เป็นผู้ยืนยันว่าสิ่งใดควรเป็นอย่างไร
เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้เขาฟังว่าความคิดเห็นหนึ่ง เริ่มได้จากต้นตอเดิม ไม่จำเป็นต้องหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น เขาไม่เข้าใจว่าของเก่าไม่จำเป็นต้องเลิก แต่ต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น บ่อยครั้งเมื่อเวลาไม่เคยหยุดนิ่งกาลเวลาได้ทำให้ความคิดที่ครั้งหนึ่งเคยเยี่ยมยอดกลายเป็นภูมิปัญญาหลังไปเสียแล้ว
ข้อสังเกตหมายเลข 14
เพิ่งนึกได้ว่าเราต้องตาย
ความคิดของมนุษย์ก็เหมือนกับเจ้าตัว อายุขัยของมันไม่ใช่นิรันดร มีไม่กี่อย่างที่เปลี่ยนโลกและดำรงอยู่ได้หลายทศวรรษ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นความคิดที่แปลกใหม่ เติบใหญ่ขึ้น แล้วก็ล้าสมัยไปในที่สุด
ไม่มีการคิดใดที่ค้างแข็งอยู่ในกาลเวลา กลเม็ดก็คือต้องรู้ว่าอะไรคืออะไร หากเรายอมรับว่าวงจรชีวิตของความคิดถูกกำหนดด้วยสิ่งต่าง ๆ อย่างหลากหลาย บางครั้งเป็นเรื่องผิวเผินจริงจัง บางอย่างอาจมีน้ำหนักมากกว่า
แต่ไม่ว่าทางใดคุณก็ทำอะไรกับมันไม่ได้มาก ความคิดต้นแบบต้องปรับตัวเพื่อยังคงอยู่ หรือไม่ก็ปล่อยให้สูญไปตามธรรมชาติ ความคิดมีวิวัฒนาการแบบดาร์วิน เช่นเดียวกับชีวิตนั่นเอง ผู้แข็งแรงกว่าจะอยู่รอด
ข้อสังเกตหมายเลข 15
การกีดกันความคิดจบไปแล้ว
ถ้าคุณไม่หยิบยืมโลก คุณก็กำลังสร้างบ้านอย่างโอหัง ไม่มีความคิดใหม่ใดสมบูรณ์แบบจนสามารถเลี้ยงดูตัวเองไปได้ตลอดกาล ความยโสคือเป้าหมายที่ง่ายและเป็นที่โปรดปรานที่สุดของความคิดใหม่ มันเหมือนใบหน้าที่รอให้ใครมาตบ เมื่อความคิดเห็นคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ในหมวดหมู่ของตน และคิดว่ามันเป็นอมตะ ก็จะทำให้ความคิดที่ 2 ซึ่งใครว่าไม่เกี่ยวเนื่องกัน และมักมาจากที่ที่ไม่คาดคิดเข้ามารวมตัวกันอย่างมีความสุขเสมอ
ข้อสังเกตหมายเลข 16
ไม่มีใครสั่งช่อดอกไม้ที่ไร้สีสัน
ความคิดใหม่ไม่จุกจิกจู้จี้ว่าคุณได้มันมาจากไหน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำอะไรให้ยากลำบากขึ้นสำหรับตัวเอง บางครั้งเหตุผลก็จับต้องได้ แต่บางครั้งก็ไม่ แต่จะเป็นแบบไหนก็ตามพื้นที่ที่มีลักษณะบางอย่างจะช่วยสร้างความคิดใหม่ได้มากกว่า
เปลี่ยนพื้นที่ทางกายภาพที่คุณอยู่ แล้วสมองของคุณก็จะทำตาม ถ้าคุณเปิดขอบฟ้ากว้างให้ผู้คนความคิดใหม่ก็จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น บางครั้งมุมมองก็เป็นเช่นที่เราเห็นจริง ๆ ด้วยการเปลี่ยนมุมมอง แรงกระตุ้นอย่างมหาศาลจะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้ามา
หนทางที่ง่ายที่สุดในการกระตุ้นสมองก็คือ เปลี่ยนโลกจริงที่อยู่ในล้อมเรา แต่กลับไม่ค่อยมีใครทำกัน สิ่งแวดล้อมแม้เพียงชั่วขณะพื้นที่ที่เราทำงานก็จะกลายเป็นพันธมิตรที่ทรงพลัง อย่างน้อยที่สุดก็ให้ไปเดินเล่นรู้สึกถึงสายฝน หรือแสงแดดบนใบหน้าของคุณบ้าง ฟังเสียงฝีเท้าและเฝ้ามองเงาของตัวคุณ เมื่อกลับเข้ามา พื้นที่อาจจะยังเหมือนเดิม แต่กลัวคุณจะเปลี่ยนไป
ข้อสังเกตหมายเลข 17
เมื่อนักการเมืองเข้ามาความคิดก็ออกไป
เป็นสิ่งที่เราเห็นได้ทั่วโลก เมื่อไหร่ก็ตามที่นักการเมืองเข้ามามีส่วนร่วม ความคิดก็จะหายไป หรือแม้แต่นักคิดผู้ที่มีไอเดียดี ๆ มากมายแต่เมื่อเข้าสู่สังคมการเมือง ความคิดเหล่านั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย นักการเมืองนั้นมีเทคนิคที่น่าทึ่ง เขาจะนำความคิดที่คนอื่นคิด แล้วป้อนกลับไปราวกับว่าเป็นความคิดของเขาเอง หากความคิดนั้นสนองความต้องการของเขาได้มันก็เขาก็จะเปลี่ยนแปลงมันเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าความคิดใหม่นั้น ต่อต้านต่อประเด็นเฉพาะของเขา เขาจะค่อยค่อยกำจัดความคิดนั้นไป
ข้อสังเกตหมายเลข 18
เราไม่รู้สิ่งที่เราไม่รู้จนกว่าเราจะทำสิ่งซึ่งปกติแล้วเราไม่ทำ
สมองมนุษย์ของเรามีความสามารถในการอ่านหนังสือ ที่แม้จะเขียนผิดแต่เราก็อ่านได้ เพราะเพียงเรารู้คำแรกและคำสุดท้ายของประโยค เราก็อ่านได้แล้วว่ามันเขียนว่าอะไร เช่นเดียวกันเราไม่จำเป็นต้องเห็นหนทางทั้งหมด เราก็สามารถค่อย ๆ เดินไปเส้นทางนั้นได้
ความกลัวสิ่งที่ไม่รู้จะเป็นโรคระบาดของจินตนาการ เหมือนโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับนักเดินเรือยุคโบราณ หากคุณกังวลว่าจะตกลงไปจากขอบโลก ความคิดของคุณก็จะไม่ยอมออกจากฝั่ง วิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้ความคิดจิตใจแล่นไปมา คือต้องคอยป้อนสิ่งที่ไม่คุ้นเคยให้กับมัน
โลกไม่เคยขาดแคลนวัตถุดิบ หากคุณชอบดูการแข่งขันรถยนต์ลองเปลี่ยนไปดูฟุตบอลบ้าง หากคุณชอบฟังดนตรีร็อค คุณลองเปิดฟังเพลงคลาสสิคดูบ้าง
ข้อสังเกตหมายเลข 19
ความคิดใหม่ เดินทางในระบบขององค์กรขนาดใหญ่ได้ไม่ดีนัก
อัตราการตายที่สูงของความคิดใหม่ ส่วนมากไม่ค่อยเกี่ยวกับคุณภาพของมัน แต่เกี่ยวกับวิธีเดินทางของมันมากกว่า นี่เป็นเพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าความคิดสดใหม่นั้นเหมือนถุงมันฝรั่ง คือสามารถดำเนินไปตามขั้นตอนการกระจายสินค้าแบบมาตรฐาน บางโอกาสก็ติดป้าย “แตกหักง่าย” “ขนย้ายด้วยความระมัดระวัง” และหวังว่ามันจะไปได้ถึงเป้าหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งองค์กรขนาดใหญ่ก็มีจุดที่ความคิดจากถูกฆ่าตายได้อย่างง่ายดายตลอดเส้นทางการเดินไปของมัน
ข้อสังเกตหมายเลข 20
มิใช่ละครแห่งชีวิตหากแต่เป็นละครสัตว์แห่งชีวิต
เราอาจเบื่อชีวิตที่เคลื่อนไปเป็นเส้นตรงแต่เราก็สบายใจกับมัน ชีวิตส่วนใหญ่ของเราเนือย ๆ อยู่กับความรู้สึกที่ว่า เราอยากทำอะไรแต่ไม่กล้าทำสิ่งนั้น ความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงแต่สิ่งที่ทำออกมากลับเลือกวิธีที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำตัวเหมือนเดิมแล้วหวังว่า อนาคตจะเปลี่ยน
ความคิดที่ฉลาดที่สุดมาจาก ผู้ที่เรียนรู้จะเล่นเรือไปในหนทางที่ไม่อาจคาดหมายได้ บอกไม่ได้ล่วงหน้า แน่ล่ะพวกเขาร่วงจากเรือเป็นบางครั้ง แต่ไม่ย่อท้อที่จะขึ้นจากน้ำ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอนั้นนำมาซึ่งรางวัลของมันเอง
ด้วยวิธีแปลกประหลาดคุณอาจสงบนิ่งก็ได้ ถ้ารู้ว่าขณะที่มองไปทางขวาคุณจะถูกฟาดจากฝั่งซ้าย การไม่รู้ล่วงหน้าอย่างแจ่มชัดว่าจะตอบสนองเสียงเรียกอย่างไรนั้น ไม่ควรทำให้คุณเดินทางสะดุดหยุดลง
สรุปในมุมของผมเลยคือ ความคิด เป็นเรื่องสำคัญ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง คือ ความคิด นับเป็นลงทุน ลงเวลาที่คุ้มค่า ถ้าเราจะเพียรพยายามศึกษาว่า ความคิด คืออะไร จะคิดไอเดียใหม่ ๆ ได้อย่างไร เทคนิคการคิดนั้นมีมากมาย แต่ต้องใส่ใจในการปกป้องความคิดด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะตอนที่ไอเดียนั้น เพิ่งเกิดใหม่ ๆ
สำหรับใครหลายคน การคิดอะไรใหม่ ๆ การมีไอเดีย เป็นเรื่องยาก ลองอ่านหนังสือให้เยอะขึ้น อ่านหนังสือหลายแนว ดูหนังบ่อย ๆ ดูหลายแนว ฟังเพลงเยอะ และหลายแนว ทำให้มีแหล่งข้อมูลผ่านหูผ่านตามากขึ้น
การเดินทางไกลบ่อย ๆ ในอาชีพนักขาย การขับรถเงียบ ๆ บ้าง เดินทางคนเดียว กินข้าวคนเดียว ได้พูดคุยกับลูกค้าทั่วประเทศ การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมบ่อย ๆ บวกกับการมีสมาธิ เมื่อโฟกัสกับการคิดอะไรใหม่ ๆ ก็ทำให้ได้ ความคิดใหม่ เสมอ
หนังสือเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะการคิด วิธีคิด เครื่องมือจัดการความคิด เป็นเรื่องที่ดูเหมือนน่าเบื่อ แต่คุณควรต้องให้เวลากับมันมาก ๆ เปรียบเสมือนการลับขวานให้คม ก่อนไปตัดต้นไม้ อยากจะทำธุรกิจได้ประสบความสำเร็จ ก็ต้องเริ่มที่ความคิดนี่ล่ะครับ