เชื่อว่าทุกคนรู้จักการเปรียบเทียบ แต่หลาย ๆ คนอาจไม่รู้ว่าการเปรียบเทียบ เปรียบเปรยนั้น ทำให้ เรื่องเล่า ทรงพลังมากขึ้น ในวงการการเงินเราจะเคยได้ยินตลาดกระทิง หมายถึง ช่วงหุ้นขึ้น ตลาดหมี หมายถึง ช่วงหุ้นลง หรือก็จะมีการพูดถึงหุ้นทองคำ ห่านทองคำ ไข่ 3 กระกร้า ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ที่เป็นที่จดจำง่ายและถูกใช้ซ้ำเล่าต่อ ๆ กันมาตลอดนั้นคือ ตัวอย่างของพลังแห่งการเปรียบเทียบ ทั้งนี้ หากจะให้สรุปว่าการเปรียบเทียบหรือเปรียบเปรยนั้น ส่งผลต่อ เรื่องเล่า อย่างไร สามารถสรุปได้หลัก ๆ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.ทำให้เรื่องเล่าแตกต่าง
ข้อนี้ถือว่าชัดเจนมาก ๆ เพราะในขณะที่ทุกคนเล่าเรื่องเดียวกัน ในแนวทางเดียวกันทำนองเดียวกัน แต่ถ้ามีใครบางคนเลือกใช้การเปรียบเทียบ แม้จะเป็นการพูดเรื่องเดียวกัน แต่ก็จะดูแตกต่างขึ้นมาในทันที ยกตัวอย่างเช่น ทุกคนเล่าเรื่องของแดง โดยบอกว่า แดงเป็นคนใจดีมาก แล้วก็ยกตัวอย่างความใจดีของแดงให้คนอื่น ๆ ฟัง ไม่ว่าใครเล่าก็เล่าเหมือน ๆ กัน
แต่ “ดำ” เล่าเรื่องความใจดีของแดงต่างออกไปจากคนอื่นคือ ดำเปรียบความใจดีของแดงว่าเหมือนทะเลที่ให้ชีวิตกับทุกคน ปล่อยให้คนอื่นมาหาประโยชน์จากแดงได้ แต่เวลาแดงโกรธ แดงก็จะทำลายทุกอย่างเหมือนกับสึนามิเป็นต้น เราจะเห็นได้เลยว่าเรื่องเล่าของดำนั้นโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นอย่างมาก เพราะใช้เทคนิคการเปรียบเทียบ
2.ทำให้เรื่องเล่าชัดเจนลึกซึ้ง
การเปรียบเทียบนั้นคือ การบอกว่าสิ่งหนึ่งเหมือนอีกสิ่งหนึ่ง จึงทำให้เกิดการเทียบเคียงกันระหว่างของสองสิ่งที่ต่างกัน ซึ่งพอคนฟังคิดตาม แล้วเห็นถึงความเหมือนที่เชื่อมโยงของสิ่งที่ต่างกันได้ จะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และเกิดความว้าว รู้สึกว่า โอ้โห ใช่เลย เหมือนกันจริง ๆ ด้วย กลายเป็นภาพที่จัดเชน และเกิดความรู้สึกประทับใจตามมา
อย่างตัวอย่างที่เปรียบความใจดีของแดงเป็น “ทะเล” นั้น ก็ถือว่าลึกซึ้งมาก เพราะทะเลคือ แหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง และคนทุกคนก็ออกทะเลไป และหาประโยชน์จากทะเลไม่มีสิ้นสุด ซึ่งพอพลิกกลับเปรียบว่าเวลาแดงโกรธเหมือนสึนามิ ภาพของภัยพิบัติที่ทำลายทุกอย่างกับความโกรธคนคนเราก็เทียบเคียงกันได้แบบพอดิบพอดี จึงกลายเป็นความลึกซึ้งและเห็นภาพของลักษณะนิสัยแดงได้อย่างชัดเจนมาก ๆ
3.ทำให้เกิดการจดจำง่าย
ข้อดีอีกอย่างของการเปรียบเทียบคือ การย่อคำอธิบายยาว ๆ ให้ไปอยู่ในคำ ๆ เดียว ให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างง่ายดายในทันที เช่น ตลาดกระทิง ทุกคนก็จะนึกตามออกว่า กระทิงดุ วิ่ง พุ่ง ชน มีการเคลื่อนไหว ก็หมายถึงสภาพตลาดที่มีควาคึกคัก ในขณะที่พอบอกว่าตลาดหมี ก็นึกถึงความเชื่องช้า จำศีล สงบ ก็คือตลาดที่ซบเซา เป็นการย่อคำอธิบายสภาพตลาดให้จดจำง่าย และนำไปบอกต่อ ใช้ต่อได้ง่าย ๆ
เทคนิคการเปรียบเทียบนั้น ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ทำให้เรื่องเล่าทรงพลังและมีความโดดเด่นขึ้นอย่างมาก ทำให้เรื่องเล่าของเราที่แม้จะพูดเรื่องเดียวกับคนอื่น แต่ก็กลายเป็นไม่เหมือนคนอื่นไปโดยปริยาย เป็นการสร้างความแปลกใหม่ ประทับใจให้เกิดขึ้นกับคนฟังได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นหนึ่งในเทคนิคที่คนอยากเล่าเรื่องเก่ง ๆ อยากทำ Content เก่ง ๆ ควรฝึกใช้ให้คล่อง เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับเรื่องเล่าของตัวเราเอง