ธุรกิจวันนี้ใครผลิตสื่อไม่เป็น เตรียมตัว….ล้ม ได้เลย หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเข้าใจ และเห็นความสำคัญของการเล่าเรื่อง การทำคอนเทนต์ The Content Revolution โลกธุรกิจเปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมในการทำธุรกิจทำแค่สองสิ่งคือ ทำการตลาด และ สร้างนวัตกรรม เปลี่ยนไปสู่ยุคแห่งการผลิตคอนเท้นต์
เป้าหมายของการทำการตลาดคือ กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดวิวัฒนาการจากผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยจนกลายเป็นแฟนเหนียวแน่นของแบรนด์ การสร้างประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ จะกลายมาเป็นกระบวนการคัดสรรที่นำพาลูกค้าของเราผ่านวิวัฒนาการนั้น
สรุป 50 ข้อคิดจากหนังสือ
1.) ในโลกที่ทุกคนต่างดิ้นรนให้คนอื่นได้ยินเสียงของตน สิ่งที่ท้าทายเราอยู่ตอนนี้คือ เราต้องหาเสียงของเราให้เจอ แล้วทำให้คนอื่นมาเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมกับเราให้ได้
2.) แทนที่จะประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราต้องยอมก่อนว่า เราเป็นแค่คนหนึ่งที่อยากไปให้ถึงจุดนั้น แถมยังมีเรื่องราวที่เราต้องเรียนรู้มากมาย การวางตัวแบบนี้มีข้อดีอยู่คือ เราจะเป็นคนที่บอกเล่าเรื่องราวตัวเอง ด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ ในที่สุดจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นที่ต้องการได้
3.) คนที่เราเลือกทำธุรกิจด้วยเป็นคนแรก มักจะเป็นคนที่เรารักและไว้ใจมากที่สุด ลูกค้าก็เช่นกัน เขาจะเลือกคนที่เขารู้สึกผูกพันเชื่อมโยงมากกว่า
4.) ถ้าอยากให้ลูกค้าเลือกเรา เราต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ นี่คือการเดินทางต่อเนื่องยาวนาน ที่เราทุกคนต้องก้าวผ่านและ
ต้องไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
5.) ผู้บริโภคต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจคุณให้ได้ คุณถึงจะโดดเด่นกว่าคู่แข่ง แต่เราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
6.) สิ่งสุดท้ายที่คุณควรอยากจะเป็นก็คือ คนดัง คุณควรเน้นให้คนที่เป็นกลุ่มผู้รับสารของคุณ ฟังคุณและพร้อมจะเข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุยโต้ตอบกับคุณมากกว่า
7.) การสะสมตัวเลขให้ได้มาก ๆ ไม่มีค่าอะไรเลยครับ (จำนวนผู้ติดตาม) สิ่งสำคัญคือ เราต้องเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างใกล้ชิดให้ได้
8.) เวลาของคุณคือ การลงทุนที่สำคัญที่สุด เทคโนโลยีช่วยให้เราเข้าตลาดได้เร็วและง่ายขึ้น
9.) เราทุกคนเป็นบริษัทผลิตสื่อที่มีคุณภาพได้ บริษัทไหนที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจได้ ก็จะเก็บเกี่ยวผลรางวัลไป
10.) ธุรกิจไม่ควรเน้นการประชาสัมพันธ์ตัวเองมากเกินไป แต่ต้องหาวิธีการนำเสนอที่จริงใจ ที่จะทำให้เรามั่นใจว่าสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้
11.) ในฐานะเจ้าของธุรกิจเราต้องให้ความสำคัญกับการทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเราอยู่เสมอ เพื่อสร้างผลตอบแทนในท้ายที่สุด
12.) มันไม่ใช่แค่การเพิ่มมูลค่า แต่เราต้องยึดมั่นในหลักการที่เราตั้งใจมาแต่ต้น เราทุกคนต่างก็เริ่มทำธุรกิจจากสิ่งที่เราเชื่อ และส่งต่อความเชื่อนั้นไปยังลูกค้า
13.) วิธีเดียวที่จะทำให้เราโดดเด่นกว่าคนอื่นได้ก็คือ เราต้องกลายเป็นบุคคลที่คนอื่นยินดีจะรับฟัง
14.) คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อทำให้ตัวตนของคุณชัดเจนขึ้น
- อธิบายว่าคุณคือใคร
- สร้างตัวตนของคุณขึ้นมา
- ยืนหยัดเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
- สร้างกลุ่มผู้รับสารชุมชนของคุณขึ้นมา
- สานสัมพันธ์
- ประชาสัมพันธ์
- ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง
15.) 5 ขั้นตอนการเข้าสู่การเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงอุตสาหกรรมของคุณ
- มีทัศนคติที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง เริ่มจากคิดถึงปัญหาที่ยากจะเข้าไปแก้
- รับรู้ว่ามีผู้รับสารที่พร้อมจะรับฟังวิธีการแก้ปัญหาที่คุณนำเสนอ
- ยอมรับให้ได้ว่ามีคนอื่นที่ไม่มีวันเข้าใจว่า คุณเชื่อในสิ่งใด
- ใช้ช่องทางที่เหมาะสมในการนำเสนอข้อความ
- สื่อสารข้อความนั้นให้ผู้รับสารได้รับรู้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
16.) ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหาร อย่าพยายามขายอาหารให้ผม ขอให้ลองขายค่ำคืนอันแสนพิเศษที่ผมจะไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด เมื่อตัดสินใจจะสั่งของหวานเพิ่ม
17.) ถ้าคุณเป็นศิลปินภาพวาด อย่าพยายามขายภาพให้ผม ขายมุมมองที่โดดเด่นและหลากหลาย ที่จะทำให้ผู้คนต้องร้องว้าวดีกว่า
18.) ถ้าคุณเป็นครูสอนฟิตเนส อย่าพยายามขายแพ็กเกจการออกกำลังกายให้ผมเลย แต่ให้ขายความเชื่อมั่นในตัวเองให้ผม
19.) ถ้าคุณเป็นเจ้าของศูนย์ธุรกิจ อย่าพยายามขายพื้นที่สำนักงานให้ผม แต่ขายโอกาสที่จะสร้างความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่นสายสัมพันธ์และโอกาสประสบความสำเร็จดีกว่า
20.) ถ้าคุณสามารถมองสิ่งต่าง ๆ ผ่านสายตาคนอื่นได้ มุมมองและวิธีคิดของคุณก็จะเปลี่ยนไปด้วย
21.) เราทุกคนต่างอยากมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น สุขภาพดีขึ้นและเป็นชีวิตที่ดีขึ้นกันทั้งนั้น ฉะนั้นแทนที่เราจะมัวแต่มุ่งมั่นที่จะขายของ เราต้องโฟกัสไปที่ความต้องการของลูกค้า
22.) ถ้าลูกค้าเข้าใจว่าคุณคือใคร คุณก็จะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ แต่ถ้าคุณมัวแต่เน้นว่าสินค้าคุณทำอะไรได้บ้าง
คุณก็จะทำลายความสัมพันธ์ที่มีกับลูกค้า
23.) ถ้าคุณมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า คุณจะเอาชนะธุรกิจที่พยายามขายแต่ตัวสินค้าได้
24.) สิ่งหนึ่งที่ทำได้ยากที่สุดในฐานะธุรกิจคือ การอธิบายว่าเราคือใคร
25.) ถ้าคุณอยากให้ตัวเองมีคุณค่ามากพอ ที่จะทำให้กลุ่มผู้รับสารสามารถมาสนใจ คุณก็ต้องมีมุมมองเป็นของตัวเองก่อน
26.) ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยไปกับคุณทั้งหมด และเราก็ไม่ควรจะพยายามเป็นเพื่อนกับทุกคน ตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจนจะช่วยคุณ ให้ดึงดูดกลุ่มผู้รับสารที่ใช่เข้ามา คนเหล่านี้พร้อมจะรับฟังว่า คุณมีอะไรจะบอกพวกเขาบ้าง
27.) ถ้าเราทำให้ธุรกิจของเราเข้าถึงได้ง่ายกว่า เราจะนำคู่แข่งไปอีกหนึ่งก้าวทันที
28.) คุณต้องทำให้ลูกค้าไว้ใจคุณให้ได้และทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ คุณต้องคอยฟังพวกเขาอยู่เสมอ
29.) ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตามห้ามใช้โอกาสที่ได้พูดคุยตอบโต้กับลูกค้า มาเป็นโอกาสในการขายสินค้าพ่วง ขายสินค้าที่ราคาสูงขึ้น
30.) คุณต้องรอให้ลูกค้ายอมรับและรับรู้อย่างแน่ชัดว่า ธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจที่ไว้วางใจได้แน่ ๆ ค่อยเริ่มกระบวนการขายเพิ่ม
31.) ถ้าอยากจะสร้างคุณค่าให้แบรนด์ คุณต้องฟังคำสุภาษิตเก่าเอาไว้บ้างที่บอกว่าเรามีสองหู แต่มีปากเดียว เพื่อที่จะได้ฟังมากกว่าพูดเป็นสองเท่า
32.) เวลาที่คุณพยายามจะสื่อสารกับทุกคน คุณจะได้ผลลัพธ์ที่จำกัด แต่ถ้าคุณมีจุดโฟกัสแน่นอน และเน้นกลุ่มเป้าหมายได้ถูกจุด คุณจะสร้างคุณค่าขึ้นมาและได้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างแน่นอน
33.) จุดสำคัญของการให้มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวังคือ การดูแลพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ
34.) ธุรกิจแบ่งเวลาส่วนใหญ่สำหรับงานขายเพื่อหาลูกค้าใหม่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้จัดการ ถึงไม่เคยยอมรับข้อเท็จจริงสักทีว่า การหาลูกค้าใหม่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่าหกถึงเจ็ดเท่า
35.) 5 วิธีการที่คุณสามารถใช้เพื่อแสดง ให้ลูกค้าเห็นว่าคุณใส่ใจพวกเขา
- การให้
- การสื่อสาร
- การเอาใจใส่
- การทำซ้ำซ้ำ
- ความยืดหยุ่น
36.) สิ่งสำคัญที่สุดข้อหนึ่งที่คุณต้องทำ หากต้องการเพิ่มจำนวนกลุ่มผู้รับสารที่รับฟังและเชื่อในจุดยืนของคุณคือ การสร้างความเชื่อมโยง
37.) การบอกเล่าเรื่องราวเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของการสื่อสาร การสร้างความเชื่อมโยงต่างหากคื อสิ่งที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ
38.) สำหรับแบรนด์ใดก็ตาม เรื่องราวที่ประสบความสำเร็จคือ เรื่องราวที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้คนทั่วไปได้
39.) หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด (ตลอดกาล) ที่คุณจะสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้คือ การมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง
40.) ไม่มีงานสัมมนาหรือการฝึกอบรมไหนที่สามารถสอนให้คุณเห็นตัวเองได้ ความเป็นตัวเองจะปรากฏขึ้น เมื่อคุณยอมรับจุดแข็งของตัวคุณเอง ถอยออกมาจากฝูงชนสักหน่อย จะได้มองตัวเองได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
41.) เรื่องราวที่เราบอกเล่า เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่ทำให้เราต่างจากคนอื่น
42.) ในการวิ่งมาราธอน ไม่สำคัญว่า คนจะมาลงแข่งมาราธอนกันกี่พันคน สิ่งเดียวที่สำคัญคือคุณต้องวิ่งเป็น ซ้อมวิ่งมาอย่างดีและรู้สึกพร้อมจะลงแข่ง การทำคอนเทนต์ก็เหมือนกัน
43.) คอนเทนต์ที่ดีจะสร้างการมีส่วนร่วมได้ ทำให้คุณเข้าถึงผู้รับสารได้และช่วยให้การสื่อสารระหว่างคุณกับผู้รับสารเป็นการสื่อสารที่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และมีความเกี่ยวข้องกับผู้รับสารอย่างแท้จริง
44.) เสียงที่เอาชนะเสียงอื่นได้ ไม่ใช่เสียงที่ตะโกนดังกว่าคนอื่น แต่เป็นเสียงที่พูดคุยกับคนอื่น จนทำให้คนเหล่านั้นมองเห็นตัวตน และหลักการที่เจ้าของเสียงยึดมั่น
45.) การถูกปฏิเสธเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดที่เราทุกคนต้องเผชิญหน้า เมื่อเรายืนหยัดเพื่อบางสิ่งบางอย่าง และพยายามสร้างจุดยืนของตัวเองขึ้นมา
46.) สิ่งเดียวที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาถูกปฏิเสธได้ก็คือ คุณต้องเลิกกลัวและยอมรับตัวเองก่อน
47.) เราสร้างบางสิ่งบางอย่างให้เหมาะสมกับทุกคน ขึ้นมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
48.) ถ้าอยากให้ผู้คนรับรู้ว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนอยู่ ตอบคำถามสามข้อนี้ให้ได้เสียก่อน
- ผู้รับสารของคุณคือใคร
- คุณจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไร
- คุณจะสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไร
49.) คุณจะเติบโตขึ้นต่อเมื่อ คุณได้สร้างผลกระทบต่อผู้คน
50.) อย่าทำให้ทุกคนในตลาดประทับใจ คุณควรสนใจเฉพาะคนที่สำคัญจริง ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล มีสารพัดสื่อ มีสารพัดแนวทาง การทำคอนเทนต์แบบใหม่ ๆ
การโฟกัสไปที่จุดใดจุดหนึ่งบวกกับการฝึกซ้อมสม่ำเสมอเท่ากับความสำเร็จ