อยาก อ่านหนังสือ ให้ได้มากๆ แต่สุดท้ายก็ยังทำไม่ได้สักที รู้สึกว่าตัวเองจัดการเวลาให้ อ่านหนังสือ ไม่ได้ ปัญหานี้จริงๆแล้ว อาจเกิดจากความคิดที่เรามีต่อ “การ อ่านหนังสือ”
ซึ่งยังไม่คมชัดมากพอที่จะทำให้เห็นความสำคัญ และผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ โดยแนวทางความคิดที่ควรมีต่อการ อ่านหนังสือ ได้แก่
1.ทุกวันมีเวลาอ่านหนังสือได้เสมอ
ที่รู้สึกว่ายุ่งจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือนั้น ต้องย้อนกลับไปสำรวจดูว่า เราต้องการเวลาอ่านหนังสือวันละเท่าไร เพราะในความเป็นจริงแล้ว เพียงแค่วันละ 15-30 นาที ก็เพียงพอให้เราอ่านหนังสือได้คืบหน้ามากขึ้นแล้ว
โดยเราไม่จำเป็นต้องอ่านวันเดียวจบเล่ม แต่อ่านวันละ 1 บทก็ได้ และในระหว่างวัน ช่วงพักเบรค ช่วงพักกลางวัน ช่วงก่อนนอน ก็น่าจะเพียงพอให้เราอ่านหนังสือได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว หรือถ้าจะให้ดี ให้พกหนังสือติดตัวไว้เลย
ไม่ว่าจะไปที่ไหน ระหว่างรอรถ รอลูกค้า เข้าห้องน้ำ หรือช่วงว่างๆ ก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านคั่นเวลาได้ เมื่อทำเป็นนิสัย เราก็จะอ่านหนังสือได้มากขึ้นแบบที่ไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
2.หนังสือคือการลงทุน เพื่ออนาคต
หลายๆคนไม่ยอมสละเวลาในการทำงานหาเงินแบบเอาเป็นเอาตายมาอ่านหนังสือ เพราะรู้สึกว่า ถ้าทำงานคือได้เงินเลย แต่ถ้าอ่านหนังสือ จริงแหละที่ได้ความรู้ แต่ความรู้นั้นมันไม่ได้ก่อให้เกิดเป็นตัวเงินแบบจับต้องได้ทันที
พอเห็นภาพแบบนี้ก็คว้าเงินไว้ก่อน เอาเวลาไปทำงานหมด โดยไม่แบ่งเวลาอ่านหนังสือเลย ซึ่งก็ไม่ผิด แต่เป็นการเสียโอกาส เพราะหนังสือจะทำให้เรามีความรู้มากขึ้น กว้างขวางมากขึ้น พัฒนาตัวเองได้มากขึ้น
ซึ่งเมื่อเรามีความรู้มาก ในอนาคตเราจะรับงานได้มากขึ้น และเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนของงานได้มากกว่าเดิม ดังนั้น เราต้องมองว่าการอ่านหนังสือคือการลงทุนในวันหน้า
3.หนังสือช่วยให้ค้นพบหนทางสู่ความสำเร็จ
ไม่มีการเรียนรู้วิธีใดจะรวดเร็วและลัดคิวได้เท่ากับการอ่านหนังสืออีกแล้ว เพราะเราสามารถเรียนรู้ได้ทุกอย่าง ทั้งจากคนสำเร็จ จากคนล้มเหลว เรียนรู้ในสิ่งที่อยากรู้ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งเรียนรู้ที่จะค้นพบตัวเองว่า ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็สามารถทำได้จากการอ่านหนังสือ
ซึ่งเริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่หยิบขึ้นมาอ่านเท่านั้น ดังนั้น หากเราปรารถนาจะประสบความสำเร็จ จะค้นพบตัวเอง เพื่อให้กำหนดแนวทางชีวิตที่ใจต้องการได้ล่ะก็ การอ่านหนังสือคือตัวช่วยที่ดีที่สุดที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด
เมื่อความคิดเปลี่ยนไป พฤติกรรมของเราก็จะเปลี่ยนตาม เมื่อเราคิดว่าทุกวันมีเวลาอ่านหนังสือเสมอ พกหนังสือติดตัวไปทุกที่ ว่างเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาอ่านด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า
หนังสือคือการลงทุนเพื่ออนาคต จะทำให้เรามีรายได้ที่มากขึ้น เติบโตในสายอาชีพ ก้าวหน้าในการทำงานทำธุรกิจ ตลอดจนยังช่วยให้ค้นพบตัวเอง
ค้นพบแนวทางในการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้จากกรณีศึกษาของคนสำเร็จทั่วโลกอีก เราก็จะอ่านหนังสือได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่อิดออด ไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลา และอ่านหนังสือได้มากเท่าที่หัวใจเราต้องการ จนนำไปสู่การพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดในที่สุด