จริงอยู่ว่า แรงบันดาลใจ เป็นสิ่งสำคัญในการทำอะไรสักอย่าง แต่เคยสังเกตไหมว่าเวลาเราทำอะไรด้วย แรงบันดาลใจ แรก ๆ ก็ทำได้อยู่ แต่พอสักพักเราก็จะเนือย ๆ เลิกทำไปเอง สิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่หลายคนกลับไม่ได้ทำ คือ “การทำให้ง่ายที่สุด”
ยกตัวอย่าง คุณมี แรงบันดาลใจ ในการลดน้ำหนัก ถ้าคุณวางแผนที่จะเข้าฟิตเนสหลังเลิกงาน แบบนี้ผ่านไปสัก 15 วัน คุณก็จะเริ่มขี้เกียจขับรถไปฟิตเนสหลังเลิกงาน ลองเปลี่ยนมาทำให้ง่าย ๆ เช่น
- วางแผนลดน้ำหนัก โดยวิ่งอยู่กับที่ 5 นาที ทันทีที่ตื่นนอน
- เดินขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟต์
- เอางานมาทำช่วงพักกลางวัน เพื่อที่ตอนเย็นจะได้ออกไปฟิตเนสให้เร็วขึ้น
- วันไหนไม่ได้ไปฟิตเนสจะต้องเดินไม่ต่ำกว่า 45 นาที
- งดของหวาน
ถ้าจะพูดให้ละเอียดไปอีกชั้นหนึ่ง คือ จัดสภาพแวดล้อมแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อำนวยความสะดวกเราให้มากที่สุด เช่น วางรองเท้าวิ่งเอาไว้หน้าห้องนอน, ซื้อวัตถุดิบทำอาหารคลีนมาใส่ในตู้เย็นให้ครบ 7 วัน, สมัครฟิตเนสที่เราจะสะดวกเดินทางไปมากที่สุด, หาเพื่อนใหม่ ๆ หรือหาแฟนที่ฟิตเนสจะได้กระตุ้นให้เราอยากไป, แปะโพสต์อิทแสดงความก้าวหน้าของการฝึก
ในเชิงของการเรียน ถ้าเราแยกหัวข้อที่เรียนออกเป็นหลาย ๆ ประเด็น จัดกลุ่มรูปแบบข้อสอบ หรือแม้กระทั้งการวางหนังสือไว้ในที่ที่ใกล้มือ การจัดโต๊ะให้เดินเข้าไปอ่านได้ง่าย ๆ การติดโคมไฟไว้ทั่วบ้าน การฉีกหนังสือออกเป็นเล่มบาง ๆ พกพาง่าย (ผมชอบทำแบบนี้ตอนเรียนเนติฯ) ก็จะช่วยทำให้เราตั้งใจเรียนไปอย่างสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
เมื่อแรงบันดาลใจมาเจอกับสิ่งที่ทำได้ง่ายก็จะเหมือนคลื่นน้ำที่ไหลไปโดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง กระแสน้ำที่ไหลแรง ๆ แบบนี้แหละที่เราเรียกว่า Passion หรือ “ฉันทะ”
จริง ๆ แค่ passion ก็ยังไม่เกิดผลอะไร เพราะก็ต้องต่อยอดไปสู่การรักษาวินัยให้คงเส้นคงวา (วิริยะ) การเอาใจใส่ปรับปรุงสิ่งที่ทำ (จิตตะ) การวางเฉยต่อทุกความทุกข์ที่เจอในการลงมือทำ และนำ feedbacks กลับมาพัฒนาต่อไป (วิมังสา) ถ้าวนลูปครบแบบนี้เรื่องที่ทำก็จะสำเร็จ
แน่นอนว่ามันไม่ง่าย ฟังคลิป อ่านคำคมสร้างแรงบันดาลใจง่ายกว่าตั้งเยอะ แต่ลองถามตัวเองดูว่า เรื่องที่ตั้งใจจะทำ มันสำคัญกับเราแค่ไหน ถ้าไม่สำคัญอย่าไปเสียเวลาทำ แต่ถ้ามันสำคัญต่อให้ยากแค่ไหนเราก็ต้องทำ ทำทันที