การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของส่วนประสม การตลาด ขั้นพื้นฐานหรือ 4Ps เป็น 7Ps ที่พัฒนาแล้วนั้นได้เพิ่มระดับความลึกที่จำเป็นมากให้กับส่วนประสม การตลาด โดยที่นักทฤษฎีบางคนอาจจะก้าวไปไกลกว่านั้นอีก
ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing mix)
เป็นเครื่องมือที่ธุรกิจและนักการตลาดใช้เพื่อช่วยกำหนดผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ที่เสนอ โดย 4Ps มีความเกี่ยวข้องกับส่วนประสมการตลาดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1960 โดย E. Jerome McCarthy
ส่วนประสมทางการตลาด 4Ps
1.สินค้า (Product)
สินค้าควรเหมาะสมกับงานที่ผู้บริโภคต้องการ, ใช้ได้ผล และควรเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังจะได้รับ
2.สถานที่ (Place)
สินค้าควรจะมีจำหน่ายในจุดที่ผู้บริโภคเป้าหมายของคุณเข้าถึงได้ง่าย เช่น ร้านค้า, สั่งซื้อทางไปรษณีย์ หรือตัวเลือกที่เป็นปัจจุบันมากกว่าผ่านอีคอมเมิร์ซหรือร้านค้าออนไลน์
3.ราคา (Price)
สินค้าควรถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความคุ้มค่าสมราคาเสมอ ไม่ได้แปลว่าควรจะมีราคาถูกที่สุด หลักการสำคัญประการหนึ่งของแนวคิดการตลาดคือลูกค้ามักจะยินดีจ่ายเพิ่มเล็กน้อยสำหรับสิ่งที่ใช้ได้ผลดีสำหรับพวกเขาจริง ๆ
4.การส่งเสริมการขาย (Promotion)
การโฆษณา, การประชาสัมพันธ์, การส่งเสริมการขาย, การขายส่วนบุคคล และล่าสุด โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญสำหรับองค์กร เครื่องมือเหล่านี้ควรใช้เพื่อถ่ายทอดข้อความขององค์กรไปยังผู้ฟังที่ถูกต้องในรูปแบบที่พวกเขาอยากได้ยินมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลหรือดึงดูดอารมณ์
ในช่วงปลายยุค 70 นักการตลาดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าควรปรับปรุงส่วนประสมการตลาด สิ่งนี้นำไปสู่การสร้าง Extended Marketing Mix ในปี 1981 โดย Booms & Bitner ซึ่งเพิ่มองค์ประกอบใหม่ 3 รายการให้กับหลักการ 4Ps ซึ่งทำให้ส่วนประสมการตลาดขยายรวมผลิตภัณฑ์ที่เป็นบริการได้ ไม่ใช่แค่สิ่งของที่จับต้องได้
ส่วนขยาย 7Ps
1.บุคลากร (People)
ทุกบริษัทต้องพึ่งพาบุคลากร ตั้งแต่พนักงานขายแถวหน้าไปจนถึงกรรมการผู้จัดการ การมีบุคคลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอทางธุรกิจของคุณมากพอ ๆ กับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนำเสนอ
2.กระบวนการ (Processes)
การส่งมอบบริการของคุณมักจะทำโดยที่ลูกค้าอยู่ด้วย ดังนั้นวิธีการจัดส่งจึงเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผู้บริโภคจ่ายให้อีกครั้ง
3.หลักฐานทางกายภาพ (Physical Evidence)
คือหลักฐานที่จับต้องหรือพิสูจน์ได้ ซึ่งบริการเกือบทั้งหมดมีองค์ประกอบทางกายภาพบางอย่างแม้ว่าส่วนใหญ่ของสิ่งที่ผู้บริโภคจ่ายไปนั้นไม่มีตัวตน สิ่งนี้ครอบคลุมถึงประสบการณ์ที่จับต้องได้ที่ลูกค้าได้รับจากบริษัท, สินค้า หรือบริการ
ตัวอย่างเช่น ร้านทำผมจัดเตรียมทรงผมให้แก่ลูกค้าของตน หรือบริษัทประกันภัยจะจัดหาสื่อสิ่งพิมพ์ให้กับลูกค้าในรูปแบบออนไลน์ แม้ว่าจะไม่ได้พิมพ์ออกมาจริง แต่พวกเขายังคงได้รับ “ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้” ตามคำจำกัดความนี้ ในบางแง่มุมของความคิด ยังมี 8Ps ในส่วนประสมทางการตลาด ซึ่ง P สุดท้ายนั่นคือผลผลิตและคุณภาพ (Product & Quality) นั่นเอง
4.ผลผลิตและคุณภาพ (Product & Quality)
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคุณเองสำหรับการจัดการต้นทุน และเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทของคุณส่งต่อสิ่งนี้ไปยังลูกค้า
ส่วนประสมการตลาดยังคงใช้งานได้ดีกับงานประจำวันของนักการตลาด ซึ่งนักการตลาดที่ดีจะได้เรียนรู้ที่จะปรับทฤษฎีให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโมเดลธุรกิจของแต่ละคนด้วย
Resource : https://www.professionalacademy.com