ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตแบบใดก็แล้วแต่ องค์กรต่าง ๆ จะก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้ ก็ด้วยการมี ผู้นำ ที่มีประสิทธิภาพ เพราะผู้นำคือศูนย์รวมจิตใจของทุกคน เป็นหลักยึดให้ทุกคนมีโฟกัส มีแรงกายแรงใจ และแนวทางในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เกิดพลังในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่
ดังนั้น หากผู้นำไม่สามารถทำให้ทุกคนในองค์กรเชื่อมั่นได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จอยู่รอดจากวิกฤตได้ก็มีน้อยลง โดย 5 คุณลักษณะของ ผู้นำ ที่ดี ที่จะนำพาองค์กรพ้นภัยได้ในช่วงวิกฤตนั้น มีดังนี้
เลือกหัวข้ออ่าน
1.มีเป้าหมาย แนวทางการทำงานชัดเจน ไม่เปลี่ยนไปมา
เนื่องจาก ผู้นำ คือศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งองค์กร ดังนั้น จึงต้องวางเป้าหมายในการทำงานให้ชัดเจน กำหนดทิศทางการทำงานที่แน่นอน ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์อย่างที่ทุกคนคาดหวังให้ได้ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีความเด็ดขาด
เพราะหากผู้นำโลเล เปลี่ยนเป้าหมาย หรือวิธีการไปมา ก็จะทำให้คนในองค์กรขาดความเชื่อมั่น และเกิดความสับสนในการทำงาน เสียเวลา เสียกำลังใจ และที่สำคัญคือสูญเสียความเชื่อมั่นที่มีต่อผู้นำ อันจะนำไปสู่ความล้มเหลวในการทำงานในทุกขั้นตอน
2.สื่อสารสม่ำเสมอ ไม่หายหน้าไปไหน
เมื่อเกิดปัญหาวิกฤตใหญ่ขึ้น ทุกคนในองค์กรต่างมองหาที่พึ่งที่พวกเขาจะเชื่อใจได้ ดังนั้น ผู้นำองค์กรจึงมักถูกเฝ้าจับตาอยู่เสมอ การสื่อสารระหว่างผู้นำกับทุกคนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ทุกคนทราบว่า ผู้นำยังอยู่ ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน ยังติดตาม และหาวิธีการแก้ไขปัญหา พร้อมจะนำพาองค์กรให้รอดพ้นวิกฤต
แต่กลับกันหากผู้นำขาดการสื่อสารที่ดีและเหมาะสมกับทุกคน กำลังใจและความเชื่อมั่นของทุกคนจะถดถอย และค่อย ๆ นำไปสู่ประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลงเรื่อย ๆ จนพ่ายแพ้ให้กับวิกฤตในที่สุด
3.เห็นอกเห็นใจ เข้าใจทุกคนในองค์กร
ทุกคนมีความแข็งแกร่ง มีความสามารถในการปรับตัวและจัดการกับภาวะวิกฤตต่างกัน คนเป็นผู้นำจึงต้องเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของทุกคนในองค์กรให้ได้มากที่สุด ต้องไม่ตัดสินทุกอย่างจากเพียงแค่ความรู้สึกของตัวเองอย่างเดียว เพราะสถานะและเงื่อนไขชีวิตของผู้นำแตกต่างจากคนอื่น ๆ
ซึ่งผู้นำจะไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ รวมพลังใจของทุกคนให้เป็นหนึ่งได้เลย หากไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา และพยายามตัดสินใจวางมาตรการ หรือกำหนดกฎเกณฑ์ทุกอย่างจากมุมมองของตัวเองฝ่ายเดียว
4.ไม่ใจร้อนปล่อยให้อารมณ์ครอบงำเป็นใหญ่
ในภาวะวิกฤตเป็นช่วงเวลาที่อาจเกิดความเครียดขึ้นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเศร้า ท้อแท้ โกรธ ฯลฯ ซึ่งผู้นำองค์กรมีหน้าที่ต้องควบคุมอารณ์ตัวเองให้ได้ ไม่แสดงออกให้ทุกคนในองค์กรสังเกตเห็น เพราะอารมณ์ที่อ่อนไหวของผู้นำองค์กร จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่ทุกคนมีต่อตัวผู้นำโดยตรง อันจะนำไปสู่รอยร้าว และรากฐานของการทำงานที่จะไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวอีกต่อไป
5.พูดความจริง ยอมรับความผิดพลาด พร้อมสู้ใหม่
ความล้มเหลว การตัดสินใจผิดพลาดของผู้นำ ไม่ใช่ความผิดพลาดล้มเหลวส่วนตัว แต่เป็นสิ่งที่คนทั้งองค์กรได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ดังนั้น หากผู้นำองค์กรไม่กล้าเปิดเผย ยอมรับความจริง และหาทางแก้ไขสู้ใหม่ ไม่แจ้งข้อเท็จจริงกับทุกคนได้รับทราบ ปัญหาก็จะไม่ถูกพิจารณาอย่างตรงจุด จนสุดท้ายแล้ว ก็จะไม่สามารถหาทางออกได้ และสายเกิดไปที่จะแก้ไข
ดังนั้น ผู้นำที่ดีจึงไม่ใช่ผู้นำที่ทำถูกทุกอย่าง แต่เป็นผู้นำที่กล้าเผชิญหน้ากับทุกความจริง และหาทางแก้ไขเพื่อสู้ใหม่ได้ทันกับสถานการณ์ต่างหาก
ความเป็นผู้นำที่ดีนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความเก่งอย่างเดียว แต่ยังต้องเป็นผู้ที่ทุกคนในองค์กรเชื่อมั่น นับถือ และศรัทธาด้วย ซึ่งหากเป็นได้เพียงผู้นำที่เก่ง แต่ไม่สามารถกุมหัวใจของทุกคนได้ องค์กรก็คงจะมีพลังไม่มากพอฟันฝ่าวิกฤตไปได้
และหากยิ่งเก่งไม่พอด้วย กุมหัวใจทุกคนไม่ได้ด้วยแล้ว โอกาสที่ผู้นำคนนั้นจะนำพาองค์กรพ้นภัยก็คงเป็นเรื่องยากขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งเพื่อจะให้องค์กรอยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้นั้น การคัดสรรผู้นำคนใหม่ที่เหมาะสมกว่า ก็จะกลายมาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกคนในองค์กรต้องร่วมมือกัน
ติดตามแฟนเพจ Work360
Add Friend รับฟรี EBook