ถ้าคุณมีคนรักต้องรับผิดชอบ คุณควรวางแผนล่วงหน้าให้ดี เพราะถ้าคุณเกิดเสียชีวิตขึ้นมา แน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อคนที่ยังอยู่ ทั้งทางกายและทางใจ
ซึ่งถ้าคุณเป็นเสาหลักครอบครัวด้วยนั้น ยิ่งต้องห่วงเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การทำประกันชีวิตไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อในอนาคตคนที่คุณรักจะได้สบาย
คำคมประกันชีวิต
1.) ประกันสุขภาพที่ทำไว้
ไม่ได้ดูแลเพียงแค่ค่ารักษาเราอย่างเดียว
แต่มีส่วนช่วยดูแลสถานะการเงินทุกคน
ที่ข้องเกี่ยวกับเรา…ไปพร้อมกันด้วย
2.) ตราบที่ยังไม่เคยเจอบิลค่ารักษา
ก็อาจยังมองไม่เห็นคุณค่า
ที่แท้จริงของประกันสุขภาพ
3.) ไม่มีประกันเราอาจไม่ตาย
แต่ถ้าเราตายไปโดยไม่มีประกัน
คนที่เรารักอาจต้องอยู่อย่างลำบาก
เหมือนกับตายทั้งเป็น
4.) การกระทำสำคัญ
กว่าคำพูดฉันใด
กรมธรรม์ประกันที่ทำไว้
ก็ชัดเจนกว่าคำว่ารัก
กว่าความรู้สึกห่วงใยฉันนั้น
5.) สิ่งสุดท้ายในชีวิต
ที่เรามอบให้กับคนที่รักได้
คือผลประโยชน์จากความตาย
ที่ทำไว้กับประกันชีวิต
6.) แย่กว่าความตาย
คือเจ็บป่วยเป็นโรคร้าย
แต่ยังไม่ตายจนพาให้ล้มละลาย
ทำลายชีวิตคนที่รัก
7.) ซื้อประกันสุขภาพไว้
ถึงไม่ได้ใช้ก็ได้ “ความคุ้มครอง”
ส่วนถ้าได้ใช้ก็รับรองเลยว่าคุ้ม
เพราะเบิกใช้ได้มากกว่าที่จ่ายแน่ๆ
8.) กำไรจากการทำประกันสุขภาพ
นอกจากความอุ่นใจแล้ว
ก็คือเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไร
เงินเก็บเราจะไม่ถูกหยิบไปใช้ง่ายๆ
9.) ไปอยู่บ้านพักคนชรา
ใช่ว่าอยู่ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ชีวิตเกษียณที่สุขสบาย
ล้วนเกิดได้จากการมีเงินพอเพียง
10.) มีลูกแล้วค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นจริง
และหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง
คือค่ารักษาพยาบาลลูกตั้งแต่เล็ก
จนกว่าจะโต
11.) เราน่ะสบายจริงเมื่อตายไป
แต่กับลูกเมียคนที่เรารักสุดหัวใจ
ต้องแบกรับภาระอะไรอีกมาก
ที่ตกทอดมาจากเรา
12.) เวลาเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาล
เราไม่ได้เสียแค่ค่ารักษาพยาบาล
แต่ยังเสียเวลาเสียโอกาสในการ
ทำงานหารายได้ไปด้วยพร้อมกัน
13.) ทุกวันนี้ไม่ว่าจะกินหรือหายใจ
ก็ทำให้เราเสี่ยงโรคภัยได้ตลอดเวลา
แล้วเคยถามตัวเองหรือไม่ว่า
ได้เตรียมค่ารักษายามเจ็บไข้ไว้แล้วหรือยัง?
14.) ลดหย่อนภาษีก็ได้
เจ็บป่วยก็ช่วยจ่าย
ตายก็กลายเป็นเงินมรดก
ให้เยอะขนาดนี้ ทำไมประกันถึง
ยังดีไม่พอที่จะเปิดใจยอมรับ
15.) น่ากลัวกว่าทำประกันสุขภาพ
แล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม
คือป่วยเป็นโรคร้ายขึ้นมา
แล้วไม่มีประกันสุขภาพคุ้มครอง
16.) เสียชีวิตแล้วไม่มีอะไร
กับเสียชีวิตแล้วมีมรดกทิ้งไว้
เราอยากเลือกแบบไหน
ให้คนที่รัก
17.) พึ่งสิทธิ์ประกันสุขภาพพนักงานมากไป
บางทีก็ต้องควักจ่ายเพิ่มก้อนใหญ่
แบบไม่ทันตั้งตัว
18.) ถ้าประกันไม่ใช่สิ่งดี
รัฐบาลคงไม่กำหนดให้
ลดหย่อนภาษีได้ผ่าน
ผลิตภัณฑ์ประกัน
19.) จะประกันชีวิตหรือสุขภาพ
ซื้อชาตินี้ก็ได้ใช้ชาตินี้
เพราะคงไม่มีใครหรอกที่ชีวิตนี้
เกิดมาแล้วไม่ตาย ไม่ป่วย
20.) เงิน 10 ล้านสำหรับคนทั่วไป
อาจดูเหมือนไกลเกินไขว่คว้า
แต่ไม่ใช่กับลูกเมียของคนที่เห็นคุณค่า
ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
21.) ประกันสุขภาพไม่ได้แค่
ช่วยจ่ายค่ารักษาในยามเจ็บไข้
แต่ยังช่วยให้คุณภาพชีวิตและจิตใจ
ของลูกเมียคนไข้ดีขึ้นอีกด้วย
22.) ทุกครั้งที่ปฏิเสธตัวแทนไป
คือการปฏิเสธโอกาสที่จะมีคน
มามอบเงินก้อนใหญ่ให้
ในวันที่เจ็บไข้ วันที่ต้องจากไป
ทั้งที่ยังมีคนที่อยากดูแล
23.) จะรู้ว่าประกันสุขภาพ
จำเป็นกับเราหรือไม่?
ให้ถามตัวเองดูว่า มีเงินพอไหม?
ถ้าเกิดเจ็บไข้เป็นโรคร้ายแรง
24.) น่าเสียดายแค่ไหนกัน
ที่เราต้องตายจากคนสำคัญในชีวิตไป
โดยที่ไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้ ไม่ได้
ส่งต่อมอบอะไรดีๆ ให้กับพวกเขาเลย
25.) หนึ่งในข้อดีของการมี
ประกันสุขภาพติดตัวไว้
คือช่วยให้เราและลูกเมียไม่ต้องลำบากใจ
ไปหยิบยืมเงินใครในวันที่ถูกโรคภัยเล่นงาน
26.) ระหว่างเบี้ยประกันสุขภาพ
ปีละ 2-3 หมื่นบาท กับค่า
รักษาพยาบาลหลายแสนบาท
เราจะเลือกจ่ายก้อนไหน?
27.) ประกันสุขภาพไม่ใช่
ผลิตภัณฑ์เพื่อคนมีตัง
แต่เป็นที่พึ่งเพื่อคนที่
ไม่อยากให้ชีวิตพัง
เพราะการเจ็บไข้เพียงแค่ครั้งเดียว
28.) มีโอกาสมากมาย
ตอนสุขภาพแข็งแรง
ทำไมถึงยอมปล่อยให้ต้อง
เสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ
เพราะไม่ได้ทำประกันสุขภาพ
29.) ขายบ้าน ขายรถ ขายทุกอย่าง
เพื่อหาทางหาเงินมารักษาโรคภัย
คือหนึ่งในปลายทางของคนไข้
ที่ไม่มีประกันสุขภาพติดตัว
30.) ถ้าเราจากไปแล้ว
ลูกเมียจะลำบากไหม?
ถ้าคำตอบคือใช่
ทำไมถึงยังไม่คิดทำประกันชีวิต
ถ้าคุณเป็นตัวแทนประกันชีวิต
หรือเป็นตัวแทนประกันภัย
การตลาดออนไลน์ช่วยคุณได้
คอร์สออนไลน์สำหรับตัวแทนประกัน