ไม่ว่าใครก็คิด ไอเดีย เจ๋งๆ ได้ ถ้าเรามีข้อมูลและวัตถุดิบ ตลอดจนฝึกคิดได้มากพอ ทั้งนี้ แนวทางในการที่จะเปลี่ยนตัวเราให้กลายเป็นคนคิด ไอเดีย ดีๆ ได้บ่อยๆ ไว้ประยุกต์ใช้กับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1.หมั่นสังเกตสิ่งรอบตัว
ไม่มีทางที่อยู่ๆ เราจะปิ๊ง ไอเดีย ขึ้นมาได้เลยโดยไม่มีอะไรมาเป็นเชื้อไฟ ทุกไอเดียล้วนมีที่มาจากสิ่งรอบตัวเรานั่นแหละ ดังนั้น การฝึกให้ตัวเองเป็นคนช่างสังเกต มองทุกอย่างรอบตัวอย่างใส่ใจจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยวิธีการต่อเนื่องจากการสังเกตก็คือ
เมื่อเรามีโจทย์อะไรก็ตามที่ต้องคิด ลองมองไปรอบๆ สังเกตสิ่งต่างๆ แล้วลองเชื่อมโยงกับโจทย์ หาความหมายร่วมกันดู จะทำให้เราเกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ไม่ยาก เช่น โจทย์คือต้องทำงานเรื่องตีมความรัก
ก็ลองสังเกตดูรอบๆ ตัว เห็นอะไรก็ลองเชื่อมกับโจทย์ดู เช่น เห็นคุ้กกี้ ก็ลองคิดดูว่าคุ้กกี้กับความรักเป็นยังไงได้บ้าง เห็นตึกสูงกับความรัก มันเกี่ยวข้องอะไรกันได้มั่งนะ เป็นต้น
2.พบปะเพื่อนใหม่
เราอยู่ในฟาร์มแกะ เราก็เห็นแต่แกะ แต่ถ้าเราออกไปฟาร์มหมา ฟาร์มแมว เราก็จะมีข้อมูลใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้คิดได้มากขึ้น กว้างขึ้น เพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ จะทำให้เราเห็นข้อมูล
เจอความเห็นที่แตกต่าง กระตุ้นให้เรามีไอเดียใหม่ๆ ได้ไม่ยาก ดังนั้น อย่ากักขังตัวเองไว้กับสังคมเดิมๆ ออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ บ้าง เพื่อเติมไอเดียใหม่ๆ ให้ชีวิต
3.อ่านหนังสือให้มากขึ้น
หนังสือคือการย่อโลกในมุมต่างๆ มาไว้ในมือที่เปิดได้ง่ายและสะดวกที่สุด ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปไหน ก็ทำให้มีข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น อย่างที่บอกว่าไอเดียดีๆ เกิดขึ้นเองไม่ได้
เราต้องเติมข้อมูลใส่ลงไปในหัวเราด้วย ดังนั้น การแบ่งเวลามาอ่านหนังสือเพิ่มเติม จึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำให้เรามีวัตถุดิบสำหรับปรุงแต่งไอเดียได้มากขึ้น
4.ท่องเว็บให้หลากหลาย
ทุกวันนี้เราแทบจะเข้าเว็บอยู่ไม่กี่เว็บเอง ทั้งที่โลกอินเตอร์เน็ตทำให้เราท่องโลกได้แบบไร้ขีดจำกัด บางทีถ้าอยากได้ไอเดียเพิ่มขึ้น เราก็แค่ต้องหาเวลาเข้าเว็บใหม่ๆ เพิ่มบ้าง สุ่มๆ เข้าไปเลยก็ได้
ไม่ต้องสนใจว่าจะต้องมีสิ่งที่อยากรู้ก่อน แต่เสิร์ชหาไปเรื่อย ดูจากข่าว จาก Trend ในโลกโซเชียลก็ได้ แค่นี้เราก็จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการผลิตไอเดียใหม่ๆ ได้มากขึ้นแล้ว
5.จดบันทึกประจำวัน
ไปอ่านอะไรมา ไปท่องเว็บไหนมา ไปเจอข้อมูลน่ารู้อะไรว้าวๆ มา อย่าปล่อยให้ว้าวแล้วหายไปเฉยๆ จดบันทึกใส่สมุด ในโน้ตในโทรศัพท์มือถือเอาไว้
ข้อมูลที่บันทึกจับต้องได้นี่แหละ จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เวลาเราคิด ระดมสมอง สามารถนำมาเชื่อมโยง ต่อยอดเกิดเป็นไอเดียใหม่ๆ ได้
6.ทำสมาธิให้จิตสงบ
สมองที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูล ถูกกดดันจากความเครียด และรายละเอียดความรับผิดชอบมากมาย บางทีก็ไม่สามารถเค้นเอาไอเดียดีๆ ออกมาได้ ดังนั้น ควรหาเวลาทำใจให้สงบ ทำหัวให้โล่งปลอดโปร่งด้วยในแต่ละวัน
อาจนั่งทำสมาธิ หรือนอนหลับตาพักสมองสัก 10-15 นาทีก็ได้ แล้วพอหัวโล่งแล้ว เราจะแปลกใจเลยว่าอยู่ๆ ไอเดียดีๆ ก็ปิ๊งขึ้นมาได้แบบไม่ยากเย็น
7.ฝึกคิดไอเดียทุกวัน
หาข้อมูลได้มากเท่าไร มีวัตถุดิบมากแค่ไหน ถ้าไม่ฝึกกระบวนการนำข้อมูลในหัวออกมาใช้ เราก็จะไม่สามารถคิดไอเดียได้รวดเร็ว หรือทันท่วงทีกับที่อยากคิดออกได้อยู่ดี
ดังนั้น นอกจากการเพิ่มเติมวัตถุดิบหัวสมองทุกวันแล้ว นอกจากหาเวลาทำสมองให้โล่งแล้ว การตั้งโจทย์ให้ตัวเองได้คิดทุกวัน ก็เป็นสิ่งที่ควรฝึกทำอย่างต่อเนื่อง
มันอาจจะยากสักหน่อย แต่พอทำไปเรื่อยๆ จะพบว่า เราจะคิดออกง่ายขึ้น คิดได้ทัน Dead Line มากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม จนเราแปลกใจเลยทีเดียว
ทั้งนี้ แนวทางในการฝึกง่ายๆ ก็เช่น กำหนดเวลา ทุกเช้า ทุกกลาง หรือทุกเย็น สัก 1 ชั่วโมง ให้เป็นชั่วโมงของการคิด เขียน อะไรสักอย่าง เมื่อทำแบบนี้ได้สัก 2-3 อาทิตย์ผ่านไป เราก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการผลิตไอเดียเราได้อย่างชัดเจน