1.เปลี่ยนที่ทำงานเป็นร้านกาแฟหรือร้านอาหาร
จากการศึกษาในปี 2012 นักวิจัยตั้งทฤษฎีว่า “ระดับเสียงรบกวนในระดับปานกลาง (เทียบกับระดับต่ำ) มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติในการประมวลผล ซึ่งจะกระตุ้นความรู้ ความเข้าใจเชิงนามธรรม และส่งผลให้ประสิทธิภาพในด้านการคิดดีขึ้น”
2.ให้เวลากับตัวเอง ปล่อยใจให้ว่างเปล่า
จากการศึกษา กลุ่มนักวิจัยชาวอเมริกันและแคนาดาในปี 2009 พบว่า การปล่อยให้จิตใจว่าง อาจทำให้เกิดสภาพจิตใจที่ไม่เหมือนใคร
ซึ่งทำให้สมองของคุณมี ความคิดสร้างสรรค์ มากขึ้น และมักจะเกิดขึ้นในขณะที่คุณกำลังทำบางสิ่งบางอย่าง เช่น ทำสวน อาบน้ำหรือล้างจาน
3.เดินเล่น
ผลการศึกษาล่าสุดของ Stanford พบว่า การเดินเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของทัศนียภาพ
ดังนั้น จึงไม่สำคัญว่าคุณจะเดินบนลู่วิ่งในสำนักงานหรือบนเส้นทางที่สวยงาม จากผลการศึกษาพบว่า “การเดินเปิดช่องทางความคิดให้เป็นอิสระ
และเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่าย มีประสิทธิภาพสำหรับเป้าหมายในการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และยังทำให้คุณได้ออกกำลังกายมากขึ้นอีกด้วย”
4.จินตนาการว่าเป็นคนอื่น
การศึกษาต่างๆพบว่า เราแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์ได้ดีขึ้น โดยการคาดการณ์ปัญหาไปยังอนาคตอันไกลโพ้น
โดยจินตนาการว่า ปัญหานั้นเกิดขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลออกไป หรือแสร้งทำเป็นว่าคนที่ประสบปัญหาไม่ใช่คุณ แต่เป็นคนอื่นทั้งหมด
5.ใช้แผนผังความคิด เพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ๆโดยการเชื่อมโยง
เมื่อพูดถึงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การทำแผนผังความคิดเป็นหนึ่งในเทคนิคที่รู้จักมากที่สุดในปัจจุบัน
การวิจัยพบว่า แผนที่ความคิดมีประโยชน์ในการรักษาอาการ Writer’s Block หรือสมองตัน รวมถึงการสร้างภาพและการจัดระเบียบความคิด ที่ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ โดยการเชื่อมโยงและเพิ่มข้อมูลได้ทุกที่บนแผนผัง
นอกจากนี้ยังนำเสนอภาพรวมของหัวข้อที่สามารถช่วยให้คุณเห็นความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดที่คุณอาจพลาดไป
6.ทำงานร่วมกับเพื่อนหรือทีมงาน
ในหนังสือ “การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์” ของ Dr.Vera John-Steiner พบว่า เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น มนุษย์จะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
รวมทั้งทักษะใหม่ๆ การพัฒนาด้านที่ไม่รู้จักมาก่อนในตัวเอง และเพิ่มความสามารถในการแสดงออกทางความรู้ความเข้าใจและอารมณ์” ดังนั้น ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจึงมีความสำคัญ
Resource: https://www.mindmeister.com