บางทีคนเราก็ต้องเห็นภาพชีวิต
“ทั้งชีวิต”เพื่อก้าวเดินต่ออย่างถูกทิศทาง
.
“ปฏิทิน 100 ปีของตัวคุณ”
จะเป็นป้ายบอกทางส่องสว่าง
ให้คุณได้ใช้ชีวิตหนึ่งเดียวนี้
อย่างที่คุณต้องการจริงๆ
และบรรลุเป้าหมายทุกอย่าง
ของคุณแบบไม่ตกหล่น
.
โอสุมิ ริกิ นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ที่ดูแลผู้คนมากกว่า 1 แสนชีวิต
ให้กับบริษัทระดับโลกของญี่ปุ่น
อาทิ Tokyo Disney Resort,
Japan Airlines, Shiseido
จะใช้อานุภาพของการมองเห็นภาพ
ชีวิตตัวเองอย่างแน่ชัดมาทวงคืน
ชีวิตจากความวุ่นวาย สับสน
เหนื่อยล้า สู้ชีวิตแต่ละวัน
ที่ถูกใช้อย่างคุ้มค่า และเปี่ยมสุข
อย่างที่คุณคาดหวัง
.
.
“ปฏิทิน 100 ปีแห่งชีวิต”
ที่คุณจะเขียนต่อจากนี้
จะเป็นทรัพย์สมบัติ
ของคุณเพียงคนเดียว
ไม่ใช่สิ่งที่จะนำไปอวดใคร
หรือมีใครมาตัดสินใดๆทั้งสิ้น
.
หัวใจสำคัญของการเขียน
ปฏิทิน 100 ปี
• ทำคนเดียวโดยพูดคุยกับตัวเอง
อย่าแข่งขันหรือเปรียบเทียบ
กับคนอื่น และอย่าต่อสู้กับตัวเอง
ขอแค่ถาม – ตอบกับตัวเองเท่านั้น
• อย่าโกหก อย่าสร้างความ
ชอบธรรมให้ตัวเองและอย่าหาข้ออ้าง
เคล็ดลับคือ อย่าจดจำเรื่องราวต่างๆ
ไว้ในสมองเฉยๆ แต่ขอให้เปลี่ยน
เรื่องราวเหล่านั้นเป็นตัวอักษร
เพื่อให้มองเห็นด้วยตา
• ลองปรับเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง
เปลี่ยนมุมมองของคุณ
ที่มีต่อเรื่องราวหรือเหตุการณ์
ที่คลุมเครือ เรื่องที่เคยปล่อย
คาราคาซังไว้แล้วพยายามวิ่งหนี
หรือเรื่องที่เป็นปัญหาดู
• อย่าดูเป็นจุดๆ แต่ให้มองแต่ละจุด
เชื่อมโยงกัน “ความผิดพลาด”
เป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่ง
ที่เราทุกคนต้องพบเจอระหว่างทาง
เมื่อเป็นเช่นนั้นจงปล่อยมันไป
แล้วอย่าหยุดเดิน แต่ขอให้รู้สึก
“ขอบคุณ”และใช้ประโยชน์จาก
“ความเจ็บปวดเหล่านั้น”
เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
• วางแผนก่อน แล้วลงมือทำ
อย่างต่อเนื่อง การลงมือทำจนกลาย
เป็นกิจวัตรเพื่อให้สิ่งนั้นเป็นจริง
.
.
“จงค้นจุดกำเนิดของคุณ”
คุณใช้ชีวิตมาอย่างไรจนถึงตอนนี้
ขอให้ลองย้อนกลับไปยัง
“ตอนที่คุณถือกำเนิดบนโลกใบนี้”
ตอนที่คุณเกิดมา คนกลุ่มแรก
ที่เกี่ยวข้องกับคุณคือ
พ่อแม่และครอบครัว
ให้คุณนึกถึงเรื่องราวในอดีต
ขึ้นมาเป็นฉากๆ หลายคนอาจมี
ความทรงจำที่ไม่ดี และบางคน
อาจไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับ
ครอบครัว แต่สิ่งไม่เปลี่ยนแปลง
คือ “วันเกิดของคุณ”และความจริง
ที่คุณได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
.
ให้ย้อนกลับไปมองจุดเริ่มต้น
หรือ “การถือกำเนิด” ของคุณ
อย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง
จากนั้นขอให้ใช้วันที่ระลึก
การเริ่มต้นชีวิตนี้เป็น
“จุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต”
.
ยอมรับว่าการที่เราเกิดมาคือ
“ความมหัศจรรย์” และ “โชคชะตา”
สิ่งสำคัญคือ “การมองเห็น
คุณค่าของตนเอง”
คุณคิดอย่างไรกับตนเอง
ไม่ใช่คนอื่นประเมินเราอย่างไร
คุณยังขยับมือพลิกหนังสือเล่มนี้
ไปทีละหน้า ไม่ใช่เพียงแค่
มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ขอให้รับรู้ว่า
วันที่คุณเกิดเป็นวันที่พิเศษที่สุด
ขอให้ทำสัญลักษณ์ไว้ในทุกจุดบน
ปฏิทิน 100 ปีท้ายเล่มว่า
“เป็นวันจุดเริ่มต้นของโอกาส”
.
.
ถ้ากำหนดวันสุดท้ายได้แล้ว
เราจะเห็น “เวลาที่เหลืออยู่”
ในอีก 10 ปีต่อจากนี้
คุณจะได้พบกับพ่อแม่สักกี่ครั้ง
ถ้าอยู่คนละจังหวัด คุณกลับบ้านเกิด
ปีละครั้ง แต่บางครั้งอาจเกิด
เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่ทำให้ไม่ได้
กลับไปเจอหน้าพ่อแม่ง่ายๆ
แน่นอนว่าพ่อแม่ของคุณ
จะมีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจำนวน
ครั้งที่ได้พบท่านคงน้อยลงไปอีก
.
หลายคนคงคิดอยู่ในใจว่า
เวลาที่เจอกันครั้งหน้า
น่าจะถ่ายรูปร่วมกัน หรือสร้าง
ความทรงจำดีๆร่วมกัน ที่ผ่านมา
คุณใช้เวลากับพวกท่านอย่างไร
และต่อจากนี้ไปคุณควรทำอย่างไร
เมื่อคุณเห็นคุณค่าของเวลา
ที่เหลืออยู่ในชีวิต คงมีสารพัด
ความนึกคิดผุดขึ้นมาในหัวแน่นอน
.
ดังนั้นภารกิจปฏิทิน 100 ปี
ในขั้นตอนนี้คือ การกำหนด
“วันสุดท้ายของชีวิต”
จากอายุคาดเฉลี่ยและอายุคาดเฉลี่ย
ของการมีสุขภาพดี เพื่อให้เห็น
“ช่วงเวลาที่เหลืออยู่” ของคุณ
.
.
ไขว่คว้า “เรื่องราว”
แห่งชีวิตของคุณ
เราทุกคนย่อมมีเหตุการณ์สำคัญ
ในอดีตที่ส่งผลอิทธิพลมาถึง
“ปัจจุบัน” ขอให้เขียนเหตุการณ์
สำคัญในอดีต หรือจุดเปลี่ยนสำคัญ
ในชีวิตลงในปฏิทิน 100 ปีท้ายเล่ม
เพื่อสร้าง “เรื่องราว”
แห่งชีวิตของคุณขึ้นมา
.
“ถิ่นฐาน” หรือ “สังกัด”
ในอดีตจะเป็นเค้าโครงสำหรับ
เรื่องราวชีวิตและสร้าง “ตัวคุณ”
ในปัจจุบันขึ้นมา ไม่ว่าเป็น
เรื่องเล็กหรือใหญ่ ขอให้นึกถึง
“เหตุการณ์ที่ฝังใจในอดีต”
เขียนความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์นั้น
ลงในกระดาษโน๊ต
แล้วแปะลงไปในปฏิทิน
.
เหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์อาจเป็น
จุดเริ่มต้นของอีกเหตุการณ์
ความคิดในขณะนั้นอาจเป็น
เมล็ดพันธุ์ของเหตุการณ์
ต่อๆมาในอนาคต
.
.
“คุณใช้ชีวิตมาอย่างไร
คุณกำลังใช้ชีวิตแบบไหน
คุณจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร”
ในเวลาที่เหลืออยู่จนถึงวันสุดท้าย
คุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งใด
และใช้เวลาอย่างไร
ในอดีตคุณใช้ชีวิตมาอย่างไร
คุณดำเนินชีวิตโดยทุ่มเทเวลา
ส่วนใหญ่ของคุณไปกับอะไร
องค์ประกอบ 6 ประการของชีวิต
• Output (การงาน) คือสิ่งที่คุณ
แสดงออกจากตัวคุณไปสู่ภายนอก
ไม่ว่าเป็นทางคำพูดหรือการกระทำ
เพื่อทำประโยชน์ให้แก่ใครสักคน
• Mother Earth (ครอบครัว,
ความสัมพันธ์กับผู้อื่น) แปลตรงตัวคือ
” แผ่นดินเปรียบเสมือนมารดา”
หมายถึง สิ่งที่เกื้อกูลหรือเป็น
สถานที่พักจริงสำหรับชีวิตและจิตใจ
ผู้คนที่เข้ามาในชีวิตคุณ ครอบครัว
เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน
คนที่เคารพนับถือ และยังรวม
ถึงสถานที่ด้วย
• Belongings (เงินทอง, วัตถุ)
“ทรัพย์สมบัติ” เป็นสิ่งที่
มองเห็นด้วยตา รวมถึงการลงทุน
การออม และสิ่งของที่จำเป็น
สำหรับการดำเนินชีวิต
• Tool (สุขภาพ) ร่างกายที่
แข็งแรงคือ อาวุธที่ทรงอานุภาพ
ในการดำเนินชีวิต เราจึงต้องดูแล
ใส่ใจสุขภาพให้มาก
• Input (การเรียนรู้, การศึกษา,
คุณวุฒิ)คือ การสร้างภูมิปัญญา
หรือการศึกษาหาความรู้เพิ่ม
ความรู้และประสบการณ์
เป็นสิ่งที่อธิบายออกมาได้ยาก
แต่ในชีวิตคนเราย่อมมีวันที่
ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้
อย่างแน่นอน
• New World (งานอดิเรก)คือ
สิ่งที่ทำด้วยความชอบ เป็นสิ่งที่
ปลุกความสนใจใคร่รู้ในตัวคุณ
ทำให้ชีวิตน่าตื่นเต้น
.
.
“สิ่งที่ต้องการจากนี้ไปคืออะไร”
ขอให้คุณย้อนกลับไปมองอดีต
โดยแบ่งตามหัวข้อเรื่อง
แล้วเชื่อมโยงไปสู่อนาคต
อันดับแรกต้องระบุ
“สิ่งที่ต้องการ”ให้ได้เสียก่อน
สิ่งที่ต้องการไม่ได้หมายถึง
“วัตถุ”เท่านั้น แต่ยังรวมถึง
“สิ่งที่จับต้องไม่ได้” อย่างตำแหน่ง
หน้าที่การงาน การศึกษา การคบหา
เพื่อนฝูง เงินทอง หรืออาชีพด้วย
.
ขอให้ยอมรับกับ “สิ่งที่ต้องการ”
ในอดีต แล้วตัดสินใจว่าจากนี้ไป
เราต้องการสิ่งใด จะได้สิ่งนั้น
มาครอบครองเมื่อไหร่
ทุกวันนี้คุณใช้ชีวิตโดย
ให้ความสำคัญกับสิ่งที่
ต้องทำอยู่หรือเปล่า ถ้าคุณไม่
นึกถึงสิ่งนี้หรือมองข้ามมันไป
คุณจะไม่รู้เลยว่าสิ่งสำคัญ
ในชีวิตคืออะไร
แม้ว่าสิ่งที่อยากจะได้เป็น “วัตถุ”
แต่ในความเป็นจริงอาจมีคุณค่า
หรือประสบการณ์ที่มากับวัตถุนั้นด้วย
.
.
“ประสบการณ์ไหนที่ส่งผล
ต่อชีวิตของคุณ”
กุญแจสำคัญในการค้นหาเรื่องราว
ในอดีตของคุณก็คือ “คน”
• เพื่อนฝูง
• คนที่เคยชอบหรือรัก
• คนที่เคยหวาดกลัว
• คนที่เคยชื่นชอบ
• คนที่อยากป้องกัน
จนยอมเอาชีวิตเข้าแลก
• คู่แข่ง
มีคนมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
แต่ขอให้นึกถึงเฉพาะคนที่มี
ปฏิสัมพันธ์ด้วยมากๆเป็นหลัก
สิ่งที่ต้องการให้คุณใส่ใจเป็นพิเศษ
คือความรู้สึก “ขอบคุณ”
.
ย้อนกลับไปดูการพบเจอในอดีต
การนึกถึง “ใครสักคน”
แล้วนำมาผูกเข้ากับ
“Want” หรือ “Will” ของตัวเรา
มันจะกลายเป็น “ภารกิจแห่งชีวิต”
หรือ “พลัง”อันแรงกล้า
.
.
“คุณมีความสุขกับอะไร จากนี้
ต่อไปคุณต้องการใช้ชีวิตแบบไหน”
การย้อนกลับไปมองว่าความรู้สึก
ยินดีที่เกิดขึ้นในชีวิตเกี่ยวข้อง
กับการตัดสินใจ “จัดสรรทรัพยากร”
สำหรับชีวิตในอนาคตเป็นอย่างมาก
.
ทรัพยากรหมายถึง จิตใจ ร่างกาย
เงินทอง และเวลา เราต้องตัดสินใจว่า
จะให้ความสำคัญกับอะไร
หรือเราจะใช้จิตใจ ร่างกาย เงินทอง
และเวลาไปกับสิ่งใดบ้าง
.
การโฟกัสกับเรื่องที่ทำให้รู้สึกดีใจ
หรือตื้นตันใจ มีบางอย่างเปิดเผย
ออกมาให้เห็นชัดเจน
คือความเกลียดชังตัวเอง
หรือช่วงเวลาที่รู้สึกขมขื่น
ขอให้ขจัดช่วงเวลาที่เกลียดชัง
เป็นช่วงเวลาที่เปล่าประโยชน์
ของชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดทุน
มากที่สุด ให้คิดถึงความสุขที่แท้จริง
คือปัจจุบันที่อยู่ตรงหน้า
เปลี่ยนไปคิดว่าจะเพิ่มช่วงเวลา
ที่ตัวเองจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ในอนาคตได้อย่างไร สิ่งสำคัญ
ที่ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็น
สถานการณ์ใดหรือช่วงเวลาไหน
มีเพียงตัวคุณเท่านั้นที่รู้
.
.
“สิ่งที่คุณทุ่มเทเวลาและเงินทอง
ให้กับมันมาตลอดคืออะไร”
ความตั้งใจ เงินทอง หรือเวลา
เมื่อเราทุ่มเทความสนใจไปกับ
สิ่งเหล่านั้น ย่อมมีเรื่องราว
สำคัญเกิดขึ้น
.
ให้เปลี่ยนสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่
ทุ่มเทเวลาและเงินทองมาเป็นอาชีพ
เพียงต้องการให้คุณค้นหาศักยภาพ
หรือพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง
อาจเป็นแนวทางในการดำเนิน
ชีวิตที่คิดไม่ถึง
.
ถ้าอยากจะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต
หรือการกระทำของตัวคุณ
ขอให้เลิกทำสิ่งที่เปล่าประโยชน์
ขอให้ลองจัดสรรทรัพยากร
ที่ชื่อว่า “ตัวคุณ”ใหม่ดีกว่า
.
.
“สิ่งที่คุณให้อภัยไม่ได้คืออะไร
และจะยอมให้อภัยเมื่อไหร่”
ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเรา
ไม่ว่าคิดอย่างไรก็ปล่อยวางไม่สำเร็จ
และยังคงทุกข์ทรมานกับมันไม่จบสิ้น
เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากเรื่องที่ให้อภัย
ไม่ได้ในอดีตเสียที
.
รู้จักปล่อยวาง ปรับเปลี่ยนมุมมอง
และทำชีวิตให้สนุกสนาน
การที่เราโมโหหรือตกใจ
คือสภาวะที่ความรู้สึกของเราหวั่นไหว
เมื่อมีการสับเปลี่ยนการกระทำ
หรือท่าทีของอีกฝ่าย ที่ผ่านมา
เราปล่อยให้ตัวเองหวั่นไหวไปกับมัน
จนกระทบต่อพฤติกรรมหรือกิจวัตร
ในแต่ละวันของเรา ไม่ว่าสถานการณ์
จะเป็นอย่างไร ต้องตั้งเป้าหมาย
ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของเรา
ไม่ให้แกว่งไปมาจนเกิดความโกรธ
หรืออิจฉาริษยา และมุ่งมั่นว่า
จะพยายามทุ่มเทพลังเพื่อสร้าง
คุณค่าจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอ
.
เพียงแค่เปลี่ยนมุมมอง
ชีวิตก็จะเปลี่ยนตาม
อนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงขึ้น
ทันทีขึ้นอยู่กับการตีความของคุณ
.
.
“สิ่งที่คุณรู้สึกเสียใจภายหลัง
คืออะไร”
ทำไมตอนนั้นเราไม่พยายาม
มากกว่านี้
ทำไมถึงล้มเลิกไปกลางคัน
ทำไมถึงปล่อยปัญหาไว้แบบนั้น
ทำไมไม่เปิดใจรับฟัง
จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้ไม่ใช่
การย้อนกลับไปรื้อฟื้นเรื่องราว
ที่เรารู้สึกเสียใจภายหลัง
เพื่อที่จะทำให้เกิดความรู้สึกเชิงลบ
ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่มีเป้าหมาย
เพื่อค้นพบเรื่องราวสำคัญ
เริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่เป็น
จุดเปลี่ยนในชีวิต และค้นหา
สิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคต
.
แต่เรื่องที่นึกเสียใจภายหลัง
ถ้าเราทำใจปล่อยมันไปได้
ก็จะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
ขอให้ตัดสินใจเลือกการกระทำ
ที่จะทำให้เป็นเช่นนั้น
และก้าวเดินไปสู่อนาคตที่สดใส
.
.
“ทำไมสิ่งที่มีความสุข”
ความสุขไม่ใช่ผลลัพธ์
แต่เป็นกระบวนการ
ความสุขไม่ได้อยู่กับจุดหมาย
ปลายทาง แต่คือสภาวะ
ของจิตใจที่รู้สึกว่า เรากำลังมุ่ง
ไปหาความสุขที่แท้จริง
ในปัจจุบัน คือการกระทำคือ
“ความสุข”นั่นเอง
.
.
“เราจะใช้ชีวิตเป็นคนแบบไหน”
เป็นการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ต้องทำ
ต่อจากนี้แล้ว คุณได้ย้อนกลับไปดู
สิ่งเหล่านั้นพร้อมกับประกาศว่า
จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรไว้ด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการให้คำมั่น
สัญญากับตัวเอง
.
คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตที่คุณ
เพิ่งตัดสินใจเลือก สิ่งที่คุณ
ทำในอดีต และสิ่งที่ได้เรียนรู้
ผ่านประสบการณ์ ขอให้ลองคิด
เส้นทางชีวิตของคุณต่อจากนี้
โดยคำนึงถึงคนอื่นหรือสังคมด้วย
ไม่จำเป็นต้องฝืนคิดในเชิงบวก
ขอแค่ให้คิดในสิ่งที่ทำให้เกิดพลัง
ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอ
.
.
“เวลาของชีวิต” เพื่อใช้ทุกนาที
อย่างที่เราต้องการจริงๆ