BMC หรือ Business Model Canvas คือแม่แบบที่ช่วยให้เราจำลอง ออกแบบการทำงานของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จำเป็นต้องทำ เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น โดยเหตุผลที่ทำให้การเขียน BMC สามารถทำให้ธุรกิจมีกำไรที่ดี มีโอกาสสำเร็จได้สูงนั้น ได้แก่
1.ทำให้เรารู้จักกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
ในการเขียน BMC เราจะต้องระบุให้ได้อย่างแน่ชัดว่า “ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย” ของธุรกิจเรา ซึ่งจะต้องรู้ลึกแบบละเอียดด้วยว่า เป็นใคร อายุเท่าไร เพศอะไร การศึกษาประมาณไหน อยู่ในจังหวัดใดพื้นที่ใด มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไร และมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิต การตัดสินใจซื้อของอย่างไร ฯลฯ ซึ่งยิ่งเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายเราดีมากเท่าไร เราก็จะยิ่งสื่อสาร ผลิตสินค้า และให้บริการที่ตอบโจทย์ถูกใจกลุ่มลูกค้าเราได้ดีมากเท่านั้น จนทำให้เกิดยอดขาย สร้างรายได้และกำไรได้ตามเป้าที่ต้องการ
2.ทำให้เรารู้ว่าจะขายสินค้าของเราอย่างไร
เมื่อรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของตัวเองชัดเจนแล้ว BMC จะพาให้เราคิดอย่างรอบคอบว่า จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทางไหนบ้าง จะขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างไรบ้าง ตลอดจนจะต้อง “สานสัมพันธ์อย่างไร” เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายประทับใจ และกลายเป็นลูกค้าของเราจริงๆ ในที่สุด รวมถึงยังย้อนกลับมาทบทวนดูได้อีกด้วยว่า สินค้าและบริการที่เราจะนำเสนอนั้น ดีจริง และเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงหรือเปล่า ซึ่งหากไม่ได้ทำการเขียน BMC ขึ้นมาก่อน ก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะดำเนินธุรกิจแบบผิดพลาด ผิดทาง และไม่สามารถขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้จริงอย่างที่คิด
3.ทำให้เรารู้โครงสร้างต้นทุนที่ชัดเจน
ในการทำธุรกิจ การรู้เพียงแค่ว่า จะขายอะไร ขายให้ใคร และขายอย่างไร ถือว่ายังไม่เพียงพอให้ประสบความสำเร็จ เพราะหากปราศจากการวางแผนเรื่องการควบคุมต้นทุนที่ดีแล้ว ก็จะไม่สามารถบริหารจัดการให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ในการเขียน BMC จึงผลักดันให้เราต้องทราบถึง “โครงสร้างต้นทุน” ที่เป็นทั้งต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งคงที่และแปรผันของกิจการ เพื่อให้เราตั้งราคาได้อย่างเหมาะสม ขายสินค้าได้กำไรเพียงพอ รวมถึงยังช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดเจนได้ด้วยว่า จะลดต้นทุนตรงไหน อย่างไรได้บ้าง อันจะนำมาซึ่งการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และมีโอกาสเติบโตได้เรื่อยๆ
4.ทำให้เรารู้ว่าต้องมีทรัพยากรอะไรบ้างในการดำเนินธุรกิจ
การเขียน BMC จะทำให้เรามองเห็นภาพของธุรกิจเราชัดเจนมากขึ้น เมื่อรู้แล้วว่า ขายอะไร ให้ใคร ทางไหน อย่างไร ก็จะทำให้เรามองเห็นภาพว่า การจะทำทุกอย่างให้ได้นั้น เราต้องมีทรัพยากร มีวัตถุดิบอะไรบ้าง เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมในการทำธุรกิจของเราให้ไปต่อได้ ไม่ว่าจะเป็น คนงาน ต้องมีกี่คน ตำแหน่งไหนบ้าง อุปกรณ์ เทคโนโลยี เครื่องจักร ซึ่งพอเราระบุสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว ก็จะทำให้เห็นภาพต่อไปอีกว่า ต้องใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน จึงทำให้เรามองเห็นถึงความเป็นไปได้ ความพร้อมของตัวเองมากขึ้นในการทำธุรกิจ และสามารถปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ต่อยอดได้ เพื่อให้โอกาสในความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จมีมากที่สุด
5.ทำให้เรามองเห็นว่าใครเป็นคู่ค้าเป็นพันธมิตรช่วยเราได้
เมื่อเราจำลองธุรกิจบนกระดาษจนเห็นแล้วว่า มีกิจกรรมอะไรที่ต้องทำบ้าง มีทรัพยากรใดบ้างที่จำเป็นต่อธุรกิจ ก็จะช่วยให้เรามองเห็นได้ว่า ควรจะต้องหาใครมาเป็นพันธมิตร เป็นคู่ค้าทางธุรกิจ ที่จะช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น ลดต้นทุนได้มากขึ้น ตลอดจนสร้างโอกาสในการทำธุรกิจของเราให้มีมากขึ้น ทั้งนี้ การทำธุรกิจโดยไม่มีพันธมิตรถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการล้มเหลวให้มีมากขึ้น ดังนั้น ถ้าเราไม่เขียน BMC ให้ละเอียด ก็อาจทำให้เราพลาดโอกาสมองเห็นพันธมิตรที่จะมาช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเราประสบความสำเร็จได้ไปอย่างน่าเสียดาย
บ่อยครั้งเรามักใช้เพียงแค่ “ความคิด” ที่ว่าน่าจะเป็นไปได้ น่าจะขายได้ แล้วเริ่มต้นสร้างธุรกิจขึ้นมาเลย จนเป็นเหตุให้พบกับความล้มเหลว ซึ่งเป็นความล้มเหลวที่ “เสียเงินลงทุน” ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้โอกาสจะกลับมาตั้งตัวใหม่อีกครั้งมีน้อยลง นั่นเองที่ทำให้ BMC หรือ แบบจำลองธุรกิจ เป็นสิ่งสำคัญจำเป็น ที่ผลักดันให้เราไม่ใช้เพียงแค่ความคิดไปเอง แต่เป็นการตกผลึกทางความคิดอย่างรอบคอบ ที่มอบโอกาสความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจให้เราอย่างแท้จริง ที่แม้ระหว่างทางการทำ BMC จะพบความล้มเหลว แต่ก็เป็นการล้มเหลวในกระดาษ ที่สร้างโอกาสให้เราเห็นจุดบกพร่อง และพัฒนาจนสร้างโมเดลธุรกิจที่ดีจริงๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งก็จะทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจได้มากขึ้น