อายุ 40 ปีแล้ว …ทำงานอะไรดี จะเลือกงานแบบไหน อาชีพอะไร เปลี่ยนงานดีไหม หาอะไรใหม่ ๆ ทำหรือจะเกาะงานเดิมเอาไว้ให้มั่นคง อายุ 40 ปีแล้ว…จะก้าวไปทางไหน บริหารงาน บริหารชีวิตอย่างไรดี สรุปของหนังสือเล่มนี้มีคำตอบ จงทิ้งงานไปครึ่งหนึ่ง เมื่อถึงวัย 40 เขียนโดย Yoshinori Shimazu ที่ว่า ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 นั้น เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ
เพราะเวลาชีวิตผ่านมาครึ่งหนึ่งแล้ว จะทำ หรือ ไม่ทำอะไร สำคัญมาก หนังสือเล่มนี้จะบอกคุณว่า มีอะไรต้องทิ้งบ้าง เมื่ออายุ เข้าวัย 40 ปี
– จงทิ้งความมั่นใจมากเกินไป ที่ตัวเองสร้างมาจนถึงจุดนี้ ความมั่นใจที่มากเกินไปไม่ส่งผลดีต่อใครทั้งนั้น
– จงทิ้งเรื่องที่ตัวเองยึด เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
– จงทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นในการเดินทาง จากปัจจุบันไปสู่จุดหมาย อดีตบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น บางครั้งเราก็ต้องทิ้งมันไว้ข้างหลัง
– จงทิ้งเรื่องที่เรียนมาไป ถ้าไม่ได้เอามาลงมือทำ วิชาบางวิชา ก็ไม่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ เราไม่จำเป็นต้องจดจำมัน แค่ทิ้งมันไป แล้วเรียนรู้สิ่งใหม่ต่อ
– จงทิ้งความภาคภูมิใจส่วนเกิน และความกระดากอายออกไป
– จงทิ้งข้อเสียของการรู้ ถ้าคุณเป็นคนคิดมากจนลงมือทำอะไรไม่ได้ การรู้ทุกเรื่อง ไม่ได้ทำให้เราสบายใจเสมอไป เรื่องบางเรื่อง ก็กลับกลายเป็นเรื่องที่เราไม่ควรรู้
– จงทิ้งตัวตนเมื่อปีก่อน แล้วเปลี่ยนคติพจน์ไหม่ทุกปี
– เรื่องที่ถึงไม่ทำก็ไม่มีอะไรเสียหาย จงเลิกทำทันที
– จงทิ้งเกณฑ์การตัดสินใจ ที่ถามตัวเองว่า ชอบหรือไม่ชอบ อยากทำหรือไม่ทำ
– จงเลิกอ่านหนังลือทุกเล่ม ยกเว้นหน้งสือที่เกี่ยวข้องกับ “ความสำเร็จของงาน”
– จงทิ้งเสื้อผ้า ที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ออกไป 7 ส่วน เสื้อผ้าบางตัวเราก็คงไม่ได้ใส่ อย่างชุดทำงาน ชุดสูททั้งหลาย นำไปบริจาคให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นจะดีกว่า
– จงเลิกนิสัยเสีย ที่ชอบเผลอดูสมาร์ทโฟน
– จงทิ้งมาตรฐานการเลือกของตัวเองเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ
– อะไรที่นึกเป็นภาพในใจไม่ได้ อย่าเสียเวลา จงทิ้งมันไป
– ถ้าอยากฝึกลูกน้องให้โต จงทิ้งงานที่ให้คนอื่นทำแทนได้
– ถ้าอยากกุมความได้เปรียบ จงทิ้งความกังวล 40% ออกไป กังวลไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นจะดีกว่า
– จงทิ้งเรื่องที่คิดว่าไม่เข้าท่า เพื่อเพิ่มความฉับไว
– ถ้าทำอะไรให้คนอื่นสิบส่วน จงทิ้งมันไป 9 ส่วน
– จงเลิกใช้ชีวิตที่เถรตรง และรู้จักโกหกบ้าง การตรงเกินไปในบางเรื่อง อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเราเอง
– จงเลิกพึ่งพาสัญชาตญาณ ในเวลาที่ต้องมอบหมายงานให้ลูกน้อง
– จงทิ้งความกังวล ในการมอบหมายงานให้ลูกน้อง
– จงทิ้งความรู้สึก รับผิดชอบที่มากเกินไป เพื่อให้ทำงานได้แบบเอาสะดวกเข้าว่า
– เมื่อกำหนดเกณฑ์การรับงานแล้ว จงปฏิเสธข้อเสนอที่ไม่เข้าเกณฑ์ทิ้งไป
– จงทิ้งนิสัย อยากทำโน่นทำนี่สารพัด
– จงทิ้งตนตอที่ทำให้งานยุ่ง ด้วยการสร้างนิสัยบันทึกรายงานประจำวัน
– จงสะสางงานเป็นระยะ แล้วกำจัดเรื่องที่ เกินกำลัง เกินจำเป็น ขาดๆ เกิน ออกไป
– จงเลิกใช้เวลาไปกับงาน 80% ซึ่งเป็นงานที่ “จะยังไงก็ได้”
– จงลดเวลาที่ไม่เกิดประโยชน์ ด้วยการ “กัน” เวลาไว้ล่วงหน้า
– จงทิ้งความรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้อง “ทำตามตารางเวลาให้สมบูรณ์แบบ”
– จงเลิกเอางานในอนาคต มาจับใส่ตารางเวลาที่ว่างลง
– จงเลิกแบ่งเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน
– จงเลิกพบกับคนที่สร้างรายจ่าย และเพิ่มเวลาอยู่กับคนที่สร้างการลงทุน
– ถ้าอยากเติบโตมากขึ้น จงเลิกคบพวกที่พูดแต่เรื่องไร้สาระ
– จงเลิกใส่ใจคอนเนคชั่น กับคนที่ไม่จำเป็น
– จงเลิกโทษคนอื่น เพื่อสร้างความไว้วางใจจากคนรอบข้าง
– ถ้าอยากเป็นที่รัก จงทิ้งความรู้สึกอยากให้คนอื่นรัก
– จงเลิกทึกทักอะไรไปเอง ถ้าอยากเข้าใจอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
– ถ้าอยากให้ลูกน้องทำงาน จงเลิกความคิดที่จะใช้ลูกน้องทำงาน
– จงทิ้งความคิด อยากทำต้วเป็นคนดี การเล่นบทร้าย ก็เป็นงานของหัวหน้าเช่นกัน
จากหนังสือ อายุ 40 ปีแล้ว ต้องทิ้งอะไรบ้าง ทำให้เราได้เห็นว่า จริงๆแล้วไม่ต้องรอให้อายุถึง 40 แล้วควรทิ้ง ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ เราก็สามารถนำหนังสือ “อายุ 40 ปีแล้ว ต้องทิ้งอะไรบ้าง” ไปปรับใช้กับงานต่างๆกับชีวิตประจำวันได้เสมอ ถ้าหากเราสามารถทิ้งบางสิ่งบางอย่างได้ เราอาจจะมีความสุข ความสบายใจในการใช้ชีวิตได้อีกเท่าตัวเลยทีเดียว