พบวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณมีความสุข มีชีวิตที่ยาวขึ้น
1.หัวเราะเสียงดัง. จงหัวเราะดังๆเมื่อรับรู้เรื่องขำขัน ไม่ว่าจากการสนทนาหรือดูวิดีโอตลก การหัวเราะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา ฮอร์โมนชนิดนี้มีส่วนทำให้อายุยืน
2.มีความสุขกับการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวไป คือกำไรชีวิต เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก
3.กินถั่วมากเข้าไว้ จากการวิจัยพบว่าการกินถั่วประเภทถั่วลิสงครั้งละ 1 ออนซ์ 5 ครั้งต่ออาทิตย์ เป็นการตัดโอกาสไม่ให้ตายเพราะโรคหัวใจได้
4. ขี่รถคันใหญ่เข้าไว้ แทบไม่น่าเชื่อว่าคนขี่รถคันเล็กมักจะตายเร็วกว่าคนขี่รถคันใหญ่
5. งีบทุกบ่าย หลังอาหารกลางวันงีบหลับสักครึ่งชั่วโมง
6. อยู่บนภูเขาอายุยืนกว่าอยู่อยู่ชายทะเล. เป็นความเชื่อผิดๆมานานที่ว่าอยู่ริมทะเลอายุจะยืน แต่ผลการวิจัยพบว่าผู้มีบ้านอยู่ภูเขามีอายุยืนกว่า ดังนั้นจึงมีรสนิยมเที่ยวป่ามากกว่าเที่ยวทะเล
7. เล่นเกม. เกมอะไรก็ได้ที่ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ เช่น หมากรุกกับเพื่อนซี้ เรียนรู้ภาษาใหม่ หรือการท่องเที่ยว ล้วนช่วยให้อายุยืนทั้งสิ้น
8.อย่ากินอาหารย่างบ่อย. การย่างเนื้อที่ปลอดภัยต้องรอให้ถ่านมอดกลายเป็นขี้เถ้าเสียก่อนจึงปลอดภัยจากสารมะเร็ง
9. เล่นกีฬา ชนิดใดก็ได้ คนที่เคยเป็นนักกีฬามาก่อน จะมีสภาพร่างกายแข็งแรงกว่าผู้ไม่เคยเล่นกีฬามาเลย ดังนั้นจึงมักตายก่อน
10.ไปโบสถ์ หรือวัดเป็นประจำ. คนที่นับถือศาสนานั้นมักมีจิตใจเยือกเย็น ความดันโลหิตต่ำ ดังนั้น จึงมีโอกาสเป็นโรคหัวใจวายน้อยกว่าผู้ที่ไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเลย
11. เต้นรำอยู่เสมอ. ผู้ที่ชอบเต้นรำมีจิตใจเข้มแข็งมั่นคง ความจำดี และมีปฏิกิริยารวดเร็ว การเต้นรำแบบแอโรบิคได้ผลเช่นเดียวกับเต้นบอลลูม
12.เลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน. ผู้เลี้ยงหมา แมว ฯลฯ จะมีความดันเลือดต่ำ การมองดูปลาว่ายน้ำก็ทำให้จิตใจสงบ ความดันโลหิตต่ำ คนเลี้ยงสัตว์มักมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่เลี้ยงสัตว์อะไรเลย
13.หายใจลึกๆ. การหายใจลึกๆ เอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานดีขึ้น ตลอดจนเป็นการทำลายเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายให้ตายไปด้วย
14. กินผักมากเข้าไว้ โดยเฉพาะผักปลอดสารพิษ ผักมีเส้นใย มักทำให้ไม่เป็นมะเร็งในระบบย่อยอาหาร ผักบุ้งทำให้สายตาดี คนแก่ตามองไม่เห็นย่อมตายเร็วกว่าคนแก่ที่ตามองเห็น
15. รู้ประวัติครอบครัว. โรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่สืบต่อทางกรรมพันธ์มายังลูกหลาน ดังนั้นต้องรู้ว่าบรรพบุรุษตายด้วยโรคอะไร เช่น โรคหัวใจ ก็พึงหลีกเลี่ยงโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ
16. ทำกิจกรรมนอกบ้าน. ผลการวิจัยพบว่าคนสูงอายุหมั่นออกไปยังกลางแจ้งมีอากาศบริสุทธิ ์ จะมีความเครียดสะสมน้อย คนแก่ที่มีความเครียดมักจะตายเร็ว
17. อย่ากินยานอนหลับเป็นนิสัย เอะอะอะไรก็กินยาไว้ก่อนยามีประโยชน์และมีโทษไปพร้อมๆกัน การนอนไม่หลับมาจากสาเหตุเครียดหรือปัญหาอื่นๆ ควรแก้ที่ต้นเหตุนั้นๆ
18. จัดเวลานอนให้เพียงพอ และทำเป็นปกตินิสัย เช่น นอนกี่ทุ่มตื่นเช้ากี่โมง คนยิ่งสูงอายุยิ่งนอนหลับได้น้อย วิธีแก้ไขนอนหลับแต่หัวค่ำตื่นแต่เช้ามืด ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกาย คนแก่นอนน้อยไปหรือนอนมากไปเป็นเหตุให้ตายเร็วทั้งสิ้น
19. หาเพื่อนใหม่และหมั่นแวะไปเยี่ยม. การร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเพื่อนทำให้เกิดความเพลิดเพลินยิ่งเป็นกิจกรรมเป็นประโยชน์ต่อสังคม ยิ่งทำให้อายุยืนมากขึ้น
20. ดื่มได้แต่น้อย. การศึกษาถึงแอลกอฮอล์พบว่าเป็นประโยชน์แก่ร่างกายหากดื่มสัก 1–2 จอก ก่อนกินอาหาร คนสูงอายุควรเลือกดื่มไวท์หรือเบียร์มากกว่าวิสกี้ดีกรีสูง การดื่มมากนอนน้อยคนแก่คนนั้นอายุสั้นแน่นอน
21. มีเพศสัมพันธ์. หากมีเรี่ยวแรงและอารมณ์รักอยู่ก็จงแสดงไปตามความต้องการ อย่าสะกดกลั้นเอาไว้หรือมีความต้องการแต่อวัยวะไม่สู้ ขอเพียงแค่คิดหรือมีอารมณ์ก็ทำให้จิตใจไม่ห่อเหี่ยว เช่นนี้อายุยืนแน่ ผลการวิจัยล่าสุดพบว่า คนแก่ที่มีแรงขับทางเพศมักไม่ค่อยตายเร็ว ต่างกับผู้หมดสมรรถภาพทางเพศตั้งแต่หนุ่มแน่น ล้วนตายเร็ว ก่อนวัยเพราะผู้นั้นสูญเสียสัญชาติญาณการแพร่พันธุ์ ไป
22. เดินมาก ๆ หรือหมั่นให้ร่างกายเคลื่อนไหวอยู่เสมอ อย่านอนแซ่วบนที่นอนตลอดเวลา คนแก่เดินวันละ 30 นาที อายุยืนแน่นอน
23. ตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก โรคเหงือกโรคฟันเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ดังนั้นหมั่นตรวจฟันและช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
24. อย่าอ้วน. คนอ้วนตายเร็วกว่าคนผอม สังเกตดูคนอายุยืนมักผอมแห้ง จำไว้ความอ้วนฆ่าคนได้
25. อย่าสูบบุหรี่ บุหรี่ทำให้อายุสั้นลงอย่างแน่นอน นอกจากไม่สูบพึงหลีกเลี่ยงพบปะกับคนสูบบุหรี่อีกด้วย
26. เพิ่มความแข็งแกร่ง คนแก่อายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ควรแข็งใจยกน้ำหนักข้างละ 2-3 กก. 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์
27. กินอาหารมีเส้นใยมาก ได้แก่ ธัญพืช ข้าวกล้อง ผลไม้ จากการศึกษานักโภชนาการมหาวิทยาลัย
28. ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้าน เช่น การทำงานบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ถูพื้น ดูดฝุ่น ทำสวน ตัดแต่งต้นไม้ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้คนแก่ไม่อ้วน เมื่อไม่อ้วนก็ไม่ตายจริงมั้ย
ที่มา Giffdiary.com