คุณไม่สามารถคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่คุณสามารถสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะผ่านมันไปได้” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การมีแรงบันดาลใจก็ยิ่งท้าทายมากขึ้นไปอีก
1. ท้าทายตัวเอง (แต่อย่ามากเกินไป)
ใช้กฎ 85% นั่นคือ ความแม่นยำ 85% และอีก 15% จะเปิดโอกาสให้คุณ “ลองผิดลองถูก” ในการเรียนรู้และเติบโตในขณะที่ยังคงรักษาแรงจูงใจไว้เมื่อตั้งเป้าหมาย
2. ก้าวออกจาก “กับดักที่สมบูรณ์แบบ”
ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อให้คุณเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่คุณเป็นเมื่อวาน แทนที่จะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่มีสถานการณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง การทำเช่นนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณพัฒนาตัวเอง และปล่อยให้ตัวเองมีอิสระที่จะทำผิดพลาดบ้าง
3. โอบกอดเป้าหมายที่ชัดเจน
แรงจูงใจที่แท้จริงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากมีเป้าหมายที่ชัดเจน ใช้สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจในการทำให้สำเร็จ แทนที่จะเน้นที่รางวัล ให้เน้นที่ความพยายาม และชื่นชมผลงานทั้งหมดระหว่างการเดินทางนั้น
4. แบ่งเป้าหมายให้เล็กลงและบรรลุผลได้
สิ่งนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าใช้เวลากับงานเฉพาะในแต่ละวันมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานที่สำคัญที่สุด และสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนสำหรับการบรรลุเป้าหมายที่มีขนาดเล็กลง
5. สร้างความยืดหยุ่น
ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะมีความยืดหยุ่นทางจิตใจ, อารมณ์ และพฤติกรรม ซึ่งช่วยให้เกิดการยอมรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับประสบการณ์ชีวิตที่ท้าทายได้สำเร็จ
6. ต่อยอดแรงบันดาลใจ
จัดการประชุมเป็นประจำกับผู้สนับสนุนเพื่อแบ่งปันชัยชนะของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสร้างวงจรการให้รางวัลและเพิ่มแรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
7. พัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ
เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับมือกับความต้องการ, ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ และมีแรงจูงใจภายใต้แรงกดดัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตึงเครียด ที่ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรก้าว และเมื่อใดควรหยุดพัก
Resource: https://soulsalt.com/how-to-stay-motivated/