“คิดจะพัก คิดถึง…..” เชื่อว่า ทุกคนน่าจะเติมคำในช่องว่างได้ถูก ว่าจะต้องเป็น “คิทแคท” ขนมเวเฟอร์ช็อกโกแลตแสนอร่อยของโปรดของใครหลาย ๆ คน โดย สโลแกน ดังกล่าวนี้ ถูกใช้ต่อเนื่องมาเป็นหลายสิบปี และจดจำในใจคนไทยมารุ่นสู่รุ่น
ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า สโลแกน มีบทบาทสำคัญต่อสินค้ามาก ๆ ยิ่ง สโลแกน ถูกจดจำมากเท่าไร ก็เท่ากับว่าผู้บริโภคจะนึกถึงสินค้าและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากขึ้น เท่านั้น
และในวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสโลแกนกันให้มากขึ้นว่า คืออะไร มีวิธีคิด เขียนอย่างไร เพื่อให้สามารถสร้างสโลแกนดี ๆ มาใช้กับสินค้าของเราเองได้ เพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยสร้างโอกาสความสำเร็จให้กับธุรกิจของเรา
เลือกหัวข้ออ่าน
สโลแกน คืออะไร?
สโลแกน หรือ Slogan คือ ชุดข้อความสั้น ๆ โดยอาจเป็นวลีหรือประโยคก็ได้ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่ออธิบายถึง “สินค้า” หรือ “กิจกรรม” ไว้ใช้สื่อสารออกไปยังกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้บริโภค เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ การตลาด
และทำให้เกิดความรับรู้ ตระหนักถึง อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมุมมองและพฤติกรรมของผู้โภค ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงเวลา และวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะนำเสนอ ยกตัวอย่างเช่น
- งดเหล้าเข้าพรรษา ใช้รณรงค์กิจกรรมงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา
- ให้เหล้า = แช่ง ใช้รณรงค์งดเหล้าเช่นกัน แต่เป็นคนละช่วงเวลาไม่ได้เฉพาะเข้าพรรษา
- เป๊บซี่ เต็มที่กับชีวิต เป็นสโลแกนของเป๊บซี่ที่น่าจะคุ้นหูทุกคนมากที่สุด
- เป๊บซี่ รสชาติของคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนมาใช้ในยุคที่ต้องการจับตลาดกลุ่มวัยรุ่น
- เป๊บซี่ กินกับอะไรก็อร่อย ต้องการสื่อให้เห็นว่า เป๊บซี่ใช้กินคู่กับอาหาร ขนม ได้ในทุกมื้อของชีวิต
จากตัวอย่างจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สโลแกน เปลี่ยนแปลงได้ ไปตามวัตถุประสงค์ที่แบรนด์อยากบอกผู้คน หรือเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่ผู้คนมีการเปลี่ยนแปลง และแบรนด์ต้องการจะบอกว่า สินค้าของพวกเขานั้น จำเป็นกับผู้คนอย่างไร
ประโยชน์ของสโลแกน มีอะไรบ้าง?
แม้เราจะบอกกันว่า สโลแกนนั้นสำคัญ แต่หลาย ๆ คนอาจรู้สึกว่ามันเป็นนามธรรมมาก ๆ ดังนั้น เราจึงจะมาสรุปให้เห็นกันชัด ๆ อีกนิดหนึ่งครับว่า ประโยชน์ของสโลแกนนั้นมีอะไรบ้าง
เหมือนประโยคขายของ ที่ฮุกตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
ถ้าใช่สิ่งที่ต้องการ ก็ดึงดูดให้สนใจ อยากรู้จักได้ง่าย เช่น เป๊บซี่ กินกับอะไรก็ร่อย เพราะเราฟังแล้ว ก็จะรู้สึกสงสัยอยากรู้ว่ามันอร่อยจริงไหม? แล้วจะกินกับอะไรก็อร่อยจริงไหม? จึงเกิดความอยากลองพิสูจน์
ซึ่งเมื่อลองแล้วอร่อยจริง สโลแกนที่ว่า เป๊บซี่กินกับอะไรก็อร่อย ก็จะตอกย้ำอยู่ในใจเราได้ ทำให้เวลาจะกินอะไร ก็จะนึกถึงเป๊บซี่ได้ตลอด เพราะเพิ่มความอร่อยให้ในทุกๆ มื้อ
สั้น กระชับ ใช้งานง่าย
เพราะเป็นชุดคำที่ไม่ได้ยาวมาก มีความหมายชัดเจน ซึ่งเมื่อถูกสื่อสารออกไปบ่อยๆ ซ้ำๆ จึงเกิดการจดจำได้ง่าย
แม้ผู้บริโภคจะยังไม่ได้ทดลองพิสูจน์อะไรตามที่สโลแกนบอก แต่ก็จะจำได้ว่า เรื่องราวแบบนี้ใครเป็นคนพูด ก็จะนึกถึงแบรนด์ได้
เช่น งดเหล้าเข้าพรรษา เราจะคิดถึง สสส. แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำตามก็ตาม ให้เหล้าเท่ากับแช่ง เราก็จะนึกถึง สสส. แม้เราจะยังคงให้เหล้าเป็นของขวัญเจ้านายเราอยู่ดี เป็นต้น
สร้างความแตกต่างโดดเด่น ให้ไม่เหมือนแบรนด์คู่แข่ง
เพราะเราต้องไม่ลืมว่า สินค้าของเราไม่ได้เป็นเจ้าเดียวในตลาด อย่างน้ำอัดลม ที่ไม่ได้มีแค่เป๊บซี่ แต่ยังมี โค้ก แฟนต้า มิรินด้า และอื่น ๆ อีก
ดังนั้น การมีสโลแกนเป็นของตัวเอง จึงทำให้ผู้บริโภคแยกออกได้ว่า แบรนด์ไหนเป็นแบรนด์ไหน แล้วเลือกตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า จะลองซื้อแบรนด์ไหนดี
โดยอาศัยสโลแกนเป็นตัวจูงใจ เช่น เป๊บซี่ รสชาติของคนรุ่นใหม่ กับ โค้ก ซ่ากับทุกโมเม้นท์ ซึ่งจริง ๆ แล้วสโลแกนของโค้กเองก็สื่อถึงคนรุ่นใหม่ได้เช่นกัน เพราะคำว่า “ซ่า” จะมีนัยความหมายแฝงถึง ความกล้าในการใช้ชีวิต
ท้าทายกับทุกโอกาส แบบวิถีคนรุ่นใหม่ด้วย ทีนี้ก็เหลือแค่ว่า เมื่อคนรุ่นใหม่เห็นสโลแกน และภาพโฆษณาในการนำเสนอของทั้ง 2 บริษัทแล้ว เขาจะเลือกชอบ เลือกเชื่อ แบรนด์ไหนมากกว่ากัน
อยากมีสโลแกนโดน ๆ ต้องคิดเขียนอย่างไร?
หลักของการคิดและเขียนสโลแกนนั้น มีหลาย ๆ องค์ประกอบ ที่อาจจะใช้ทั้งหมด หรือหยิบเอาบางข้อมาประกอบกันก็ได้ ตามที่เห็นว่าเหมาะสมจะใช้ในการสื่อสารแบรนด์สินค้าของเรามากที่สุด โดยมีแนวทางในการคิดเขียน ดังต่อไปนี้
เข้าใจง่าย บอกจุดเด่น จุดขาย บอกเรื่องราวดีๆ ในแง่บวก
เช่น “ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์” บอกจุดเด่นของสินค้าชัดเจน แถมยังมีชื่อแบรนด์อยู่ในสโลแกนด้วย หรือ ฟาร์มเฮ้าส์ หอมกรุ่นจากเตาทุกวัน ก็บอกถึงจุดเด่นว่า ผลิตใหม่ทุกวันจากเตา เป็นต้น
สั้น กระชับ มีสัมผัสคล้องจองได้ก็ยิ่งดี เช่น
“ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์” มีแค่ 6 พยางค์ มีสัมผัสคล้องจอง เห็นหรือได้ยินครั้งเดียวก็จำได้เลย แต่ “เป๊บซี่ กินกับอะไรก็อะไรอร่อย” จะไม่ได้ใช้คำคล้องจองมาช่วยจำ แต่ก็สั้น กระชับมากพอ ที่จะจำได้ในครั้งเดียว
สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน
เช่น “คิดจะพัก คิดถึงคิดแคท” แม้จะไม่ได้ระบุว่า กลุ่มเป้าหมายเป็นเพศวัยไหน แต่ก็ระบุชัดว่า “ถ้าคุณเป็นคนที่คิดจะพัก” จะเบรคตัวเองจากความเบื่อหน่าย คิทแคท คือ คำตอบหนึ่งที่พึ่งได้ หรือ “เคล็ดลับ ของคนคัพเล็ก”
สโลแกนชุดชั้นในซาบีน่า ที่แม้ชุดชั้นในจะเป็นสินค้าสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอยู่แล้ว แต่สโลแกนชุดนี้ก็เน้นย้ำเจาะกลุ่มเป้าหมายให้แคบลงไปอีก ว่าเป็นชุดชั้นในสำหรับคนที่หน้าอกเล็ก เป็นต้น
ให้คำมั่นสัญญา หรือบอกวิสัยทัศน์ความเป็นตัวตนของแบรนด์
ที่จะทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อผู้บริโภค เช่น “คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3” เป็นสโลแกนที่บอกว่า คนดูจะคุ้มแน่ ๆ ที่ดูช่อง 3 สื่อให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่จะทำรายการดี ๆ นำเสนอสิ่งดี ๆ สู่สังคม หรือ “โตชิบ้า นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต”
ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของโตชิบ้านั้นมีหลากหลายมาก จึงไม่ได้แยกสโลแกนออกมาให้เยอะสับสนวุ่นวายเป็นรายสินค้า แต่เหมารวมหมดเลยว่า ทุกสินค้าของโตชิบ้านั้น ไว้ใจได้ เป็นการนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตของผู้บริโภค เป็นต้น
4 หลักการข้างต้น เป็นแนวทางสำคัญของการคิด เขียน คำสโลนแกน ให้มีประสิทธิภาพ ให้ตอบโจทย์ ตรงใจ และเป็นที่จดจำให้ได้มากที่สุดในความทรงจำของผู้คน ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่า
แต่ละสโลแกนไม่จำเป็นต้องเลือกใช้หลักการทุกข้อทั้งหมด แต่เลือกใช้บางข้อที่เหมาะสมกับการสื่อสารเท่านั้น เช่น บางสโลแกนก็ไม่ได้คล้องจอง แต่บอกวิสัยทัศน์
หรือบางสโลแกนคล้องจอง แต่ก็ไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย แต่บอกจุดขาย เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกสโลแกนมีเหมือนกันหมดก็คือ มีความสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสารในแง่บวกนั่นเอง
ตัวอย่างสโลแกนในตำนาน ที่จำติดหูคนไทยมานานหลายสิบปี
แน่นอนว่า ถ้าเราอยากจะคิดเขียนคำสโลแกนของสินค้าแบรนด์ตัวเองให้ปัง ให้โดน นอกจากรู้หลักการและเทคนิคต่าง ๆ แล้ว ก็คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การเรียนรู้จาก “สโลแกนในตำนาน” ที่ใช้งานจริงมาแล้ว ของสินค้าแบรนด์ดังต่าง ๆ
เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่าง เห็นแนวทางความคิด และการใช้คำ เพื่อนำมาปรับต่อยอดพัฒนาเป็นสโลแกนของตัวเอง โดยตัวอย่างสโลแกนดัง ๆ ที่ปังติดหูติดใจในความทรงจำคนไทยมาเนิ่นนานมีดังนี้
สโลแกนแบรนด์ดัง สินค้า “ของกิน”
- ฟาร์มเฮ้าส์ หอมกรุ่นจากเตาทุกวัน
- คิดจะพัก คิดถึง คิทแคท
- มายมิ้นท์ พูดแล้วหอม
- คิดถึงสีฟ้า เวลาหิว
- โก๋แก่ มันทุกเม็ด
- ฟิชโช ปลาไม่ชอบ แต่คนชอบ
- แมคโดนัล ความสุขล้นเมนู
- ฟูจิ สั่งเลยอร่อยทุกอย่าง
- ฮานามิ ข้าวเกรียบรวยเพื่อน
- ยูโล่คัสตาร์ดเค้ก สะดวก อร่อย ทุกที่ทุกเวลา
- Swensen’s ความสุขไม่มีวันละลาย
สโลแกนแบรนด์ดัง สินค้า “เครื่องดื่ม”
- เป๊บซี่ เต็มที่กับชีวิต
- ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์
- นมตราหมี เพื่อคนที่คุณรัก
- นมสดหนองโพ นมโคแท้ๆ
- ฉลามบุก คนสู้ชีวิต
- เบอร์ดี้ หนึ่งในใจคุณ
- มิรินด้า ซ่าสุดใจ
- ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง
- ดัชมิล อร่อยดีมีประโยชน์
- ไวตามิลค์ ให้โปรตีน อิ่มสบายท้อง
- คิดจะดื่มน้ำ ดื่มคริสตัล
- เขาช่อง รสแท้กาแฟไทย
- M150 ไม่มีลิมิต ชีวิตเกิน 100
สโลแกนแบรนด์ดัง สินค้า “ของใช้อื่น ๆ ”
- รักน้ำ รักปลา รักซากูระ
- นันยาง เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ
- Pop Teen เห็นแล้วปิ๊ง ใส่แล้วป๊อบ
- มามี่โป๊ะโก ยิ้มได้ไม่ซึมเปื้อน
- ถุงเท้าคาร์สัน ถุงเท้าที่ทุก ๆ คนใส่กัน
- อายิโนโมโต๊ะ ผลิตจากวัตถุดิบหลักจากธรรมชาติ
- คอลเกต ฟันไม่ผุอยู่แล้ว
- ห่านดินกินย่า ห่านฟ้ากินยุง
- ยาหม่องตราถ้วยทอง มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว
- ยาดมตราโป๊ยเซียน ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน
- ซอลท์ เค็มแต่ดี
- ชุดเครื่องนอน ToTo สัมผัสใหม่แห่งการนอน
สโลแกนแบรนด์ดัง องค์กรต่าง ๆ
- คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่อง 3
- ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ
- ททบ. 5 นำคุณค่าสู่สังคมไทย
- อสมท. ก้าวไกลรับใช้ประชาชน
- ITV ทีวีเสรี
- การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า
- แอร์เอเชีย ใครๆ ก็บินได้
- KFC อร่อยจนต้องเลียนิ้ว It’s Finger Lickin’ Good
- Apple Think Different คิดให้แตกต่าง
- ธนาคารกสิกรไทย บริการทุกระดับประทับใจ
- TMB เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น Make THE Difference
สโลแกน เป็นสิ่งที่สื่อถึงสินค้า สื่อถึงองค์กร หรือแบรนด์ของเราโดยตรง ที่สามารถใช้สื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายมากที่สุด เป็นที่จดจำได้ง่ายมากที่สุด ซึ่งเมื่อผู้บริโภครู้จักแบรนด์สินค้า ผ่านสโลแกนแล้ว
สิ่งสำคัญที่จะทำให้พวกเขาจดจำ และรู้สึกดีต่อแบรนด์ได้มากขึ้นก็คือ การที่พวกเขาได้มีประสบการณ์ที่ดีกับการใช้สินค้าและบริการของแบรนด์จริง ๆ นั่นหมายความว่า นอกเหนือจากสโลแกนจะต้องดีแล้ว
สินค้าและบริการของก็จะต้องดีมีคุณภาพด้วย เพื่อเวลาลูกค้าใช้บริการใช้สินค้าของเรา จะได้เห็นพ้องต้องกันกับสโลแกนที่พวกเขารับรู้มา เกิดความจำได้
เชื่อใจ พร้อมจะใช้ซ้ำ และบอกต่อสินค้าของเรา ดังนั้น ข้อความสโลแกน จึงต้องเป็นความจริง พร้อมจะถูกพิสูจน์ให้เห็นจริงได้เสมอ