Search
Close this search box.
คำโฆษณา

31 กลยุทธ์โน้มน้าวใจผู้คน ด้วยหลักจิตวิทยาการเขียนคำโฆษณา

การเขียนคำโฆษณาเป็นเรื่องยาก แต่การเขียนคำโฆษณาเพื่อโน้มน้าวใจยากยิ่งกว่า”

31  กลยุทธ์เพื่อการเขียนคำโฆษณาเพื่อโน้มน้าวใจ

1. เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน

การเลือกใช้คำหรือศัพท์เทคนิคมากเกินไป อาจสร้างความสับสนให้กับผู้อ่าน เพราะถ้าคนอ่านไม่เข้าใจ ก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจพวกเขาได้

2. ใช้คำพูดเชิงบวก

หากคุณใช้คำพูดเชิงบวกจะสามารถโน้มน้าวใจได้ดีกว่าคำพูดเชิงลบ

3. ใช้คำเชื่อมโยง

การเชื่อมโยงช่วยเพิ่มความชัดเจนและการโน้มน้าวใจ ด้วย 2 วิธีคือ เพื่ออ้างอิงในประโยคก่อนหน้า และเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์

4. หลีกเลี่ยงคำซ้ำ

ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำและภาษาที่ซับซ้อน แต่ใช้คำที่เรียบง่ายและมีความหลากหลายให้มากขึ้น

5. ใช้การอุปมาอุปไมย

อุปมาอุปมัยเป็นสิ่งจับต้องไม่ได้ แต่ช่วยให้ผู้อ่านของคุณมองเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ช่วยเพิ่มผลกระทบและโน้มน้าวใจด้วยของข้อความของคุณ

6. อ้างเครดิตของบริษัทหรือรีวิวจากลูกค้า

ความน่าเชื่อถือจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและโน้มน้าวใจมากขึ้น เพราะคุณกำลังบอกเล่าด้วยข้อมูลที่เป็นจริง

7. ใช้ตัวเลขหรือสถิติ

เป็นการดึงดูดความสนใจ เพราะตัวเลขนั้นมาจากข้อมูลที่มีจริงๆ ไม่ใช่คิดขึ้นมาเอง

8. กระตุ้นอารมณ์

เพื่อดึงดูดและสร้างความคล้อยตามให้กับผู้อ่าน หรือที่เรียกว่า Call To Action (CTA) คือ การบอกให้ผู้อ่านรู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้สินค้า หรือบริการของคุณ

9. เล่าให้เห็นภาพ

เปลี่ยนความรู้สึกเป็นภาพที่จับต้องได้และมีประโยชน์ แนวโน้มที่จะชื่นชมคุณค่าของข้อเสนอของคุณก็จะเพิ่มขึ้น

10. ใช้รูปภาพประกอบ

โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นตัวเลข การนำเสนอที่มีรูปภาพประกอบ สามารถช่วยโน้มน้าวใจได้มากขึ้น

11. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

เพื่อให้ตรงกับความสนใจของผู้อ่านมากกี่สุด

12. ใช้คำสรรพนาม

ใช้คำสรรพนาม เช่น เรา, ของเรา จะกระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน แสดงถึงการมีส่วนร่วมและเป็นบวกให้กับผู้อ่านของคุณ

13. ให้อิสระในการตัดสินใจ

ช่วยลดปฏิกิริยาทางจิตใจด้วยการให้อิสระแก่ผู้อ่าน เพื่อให้คำกระตุ้นการตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

14. ใช้จุดอ่อนให้เป็นประโยชน์

สามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อทำการตลาดเป้าหมาย อธิบายว่าข้อเสนอของคุณไม่ได้รวมคุณลักษณะบางอย่างไว้ เนื่องจากมุ่งเน้นความสนใจไปที่อีกอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญกว่า ด้วยการเปลี่ยนให้ข้อเสียหรือจุดอ่อนของคุณหมุนไปในทางบวกนั่นเอง

15. เพิ่มทางเลือก

เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับคุณและคู่แข่ง

16. อย่ารีบร้อน

เพื่อไม่ให้ผู้อ่านรู้สึกหมดสนุกหรือทำให้เนื้อหาไม่น่าติดตาม  ควรเริ่มต้นด้วยการกวนปัญหา อธิบายถึงสาเหตุหรือความเจ็บปวด จากนั้นค่อยเปิดเผยวิธีแก้ปัญหาของคุณ

17. บอกอ้อมๆ

ชวนให้ผู้อ่านอยากติดตามเนื้อหาต่อไป ประโยชน์ที่จะได้รับหรือวิธีการแก้ปัญหา

18. ขยี้ปมหรือจุดเจ็บปวด

แทนที่จะโน้มน้าวผู้อ่านด้วยประโยชน์ของการแก้ปัญหา แต่ให้เน้นการขยี้ปมปัญหาที่เกิดขึ้นแทน ผู้อ่านจะเริ่มเห็นอกเห็นใจกับคำอธิบายเหล่านั้น และจินตนาการว่าตัวเองกำลังประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าว และหันมาสนใจวิธีแก้ปัญหาของคุณ

19. ตั้งคำถาม

เพื่อโน้มน้าวให้ผู้อ่านอยากหาคำตอบและมีส่วนร่วม

20. อ้างอิง

ช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องของปัญหา ซึ่งจะทำให้ปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นคำว่า “คุณ” หรือ “ของคุณ”

21. แสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อผู้อื่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบทางลบ เป็นผลกระทบที่ทรงพลังและสามารถโน้มน้าวใจได้ดีอีกทางหนึ่ง

22. สร้างตัวตนให้ผู้อ่าน

หากคุณเป็นบล็อกเกอร์แทนที่จะขอบคุณผู้อ่านที่ทำบางสิ่งบางอย่าง (เช่น การอ่านเนื้อหาของคุณ) ให้ขอบคุณพวกเขาที่เป็นบางสิ่ง (เช่น เป็นแฟนเพจของคุณ) เพราะจะสร้างผลกระทบต่อทัศนคติที่มีต่อเนื้อหาของคุณมากขึ้น เหมือนพวกเขามีตัวตนสำหรับคุณนั่นเอง

23. ใช้ตัวเลขและหน่วยวัดให้เหมาะสม

ใช้หน่วยขนาดใหญ่เพื่อขยายการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และหน่วยขนาดเล็กเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ เช่น ในการจัดส่งสำหรับการซื้อทางออนไลน์ ในระหว่างขั้นตอนการซื้อ ลูกค้าจะจดจ่ออยู่กับตัวเลข ดังนั้นคุณควรใช้ตัวเลขให้น้อยที่สุด (เช่น 1-3 สัปดาห์) หลังจากนั้นเมื่อลูกค้ากำลังรอการจัดส่ง พวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่ระยะเวลา ดังนั้นคุณควรลดหน่วยวัดให้เล็กลงจากสัปดาห์เป็นวัน (เช่น 7-21 วัน)

24. สร้างความคลุมเครือ

เพื่อให้ผู้อ่านอยากรู้อยากเห็นและมีส่วนร่วมให้ทำตามขั้นตอนที่คุณต้องการต่อไป

25. สื่อสารให้ตรงใจ

เมื่อทราบว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร การเลือกใช้คำกระตุ้นในการตัดสินใจให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก รวมทั้งประโยชน์หรือสิ่งที่พวกกเขาจะได้รับต้องตรงกับความต้องการพอดี

26. หลีกเลี่ยงคำถามที่ไม่สร้างสรรค์

เลี่ยงคำถามในแง่ลบเพราะจะลดการโน้มน้าวใจในข้อเสนอของคุณ เช่น คำถามที่คุณเป็นฝ่ายถูกเสมอ, คำถามในเชิงสั่งให้ทำ, คำถามสองแง่สองง่าม หรือคำถามดูถูกผู้อ่าน เป็นต้น

27. ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย

เพราะการตัดสินใจอาศัยความถูกต้องและรวดเร็วเป็นหลัก เนื้อหาที่ยาวและใช้คำฟุ่มเฟือยเกินไปจะสร้างความน่าเบื่อและลดทอนความน่าสนใจลงได้

28. บอกจุดแข็งตั้งแต่แรก

อย่ามองข้ามลำดับในข้อความของคุณ วางผลประโยชน์ที่ชัดเจนไว้ที่จุดเริ่มต้นเสมอ

29. ใช้การเปรียบเทียบ

การเปรียบเทียบจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการตัดสินใจของผู้อ่านมากขึ้น

30. เร่งการตัดสินใจ

มีหลายวิธี เช่น กำหนดเวลาแบบเร่งด่วน, แสดงให้เห็นว่าสินค้ากำลังจะหมด, ใช้หลักความขาดแคลน, ให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาถ้าหากพลาดการตัดสินใจในครั้งนี้ และอาจจะกระตุ้นเพิ่มเติมด้วยคำพูดที่ใช้เร่งรัดการตัดสินใจ หรือ FOMO (Fear Of Missing Out) เช่น ด่วน!! มีจำนวนจำกัด เดี๋ยวนี้! เป็นต้น

31. รู้จริง

หากคุณศึกษาเรื่องการเขียนคำโฆษณาอย่างถ่องแท้ มีระบบและขั้นตอนที่ดี  จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในคำโฆษณา สามารถสร้างผลกระทบอย่างมากต่อการโน้มน้าวใจด้วยข้อความของคุณ การศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้งานเขียนของคุณน่าสนใจมากขึ้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า เพราะยังไงงานเขียนก็คือ ศิลปะ นั่นเอง

 

 

Resource: https://www.nickkolenda.com/copywriting-tips/

READ  12 กลยุทธ์ในการค้นหาสินค้าที่ทำกำไรให้คุณตั้งแต่ชิ้นแรก
บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า