ครั้งหนึ่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในโลกได้นั้น
เป็นเพราะนิสัยรักการอ่านของตัวเขาเอง ที่ในแต่ละวัน 80% ของการทำงานของเขาคือ “การอ่านหนังสือ” และทุกๆ วันเขาจะอ่านหนังสือไม่ต่ำกว่า 500 หน้า
การอ่านหนังสือทุกวัน จะก่อให้เกิดการทำงานของความรู้ในรูปแบบ “ดอกเบี้ยทบต้น” ที่นับวันจะยิ่งทำให้รู้มากขึ้น จนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เสริมแกร่งทักษะในแก้ปัญหาได้ดีขึ้น และพาให้ประสบความสำเร็จไปได้ทีละขั้นๆ
ซึ่งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นก็ชี้ไปในทางเดียวกันว่า “การอ่านหนังสือ” ส่งผลทำให้คนเรามีแนวโน้มที่จะฉลาดขึ้นทั้งทางอารมณ์และสติปัญญา
Steve Siebold ใช้เวลาร่วม 30 ปี ในการสัมภาษณ์เศรษฐีทั่วโลก 1,200 คน เพื่อค้นให้พบว่าพวกเขามีลักษณะนิสัยอย่างไร
ผลปรากฏว่า นิสัยร่วมอย่างหนึ่งที่เศรษฐีทุกคนมีเหมือนกันคือ ทุกคนรักการอ่านหนังสือ และฝึกให้ตัวเองอ่านหนังสือทุกวัน ทุกแนว
ตั้งแต่การพัฒนาตัวเองไปจนกระทั่งอัตชีวประวัติ ซึ่งความจริงข้อนี้ทำให้เห็นว่า จริงๆ แล้ว “การอ่าน” ไม่ได้ผูกติดอยู่แค่กับตำราเรียน หรือการอ่านหนังสือในโรงเรียนเท่านั้น
แต่การอ่านหนังสือด้วยตัวเอง นอกเวลา ตลอดเวลาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไร ก็ล้วนส่งผลดีต่อชีวิตทั้งสิ้น เราต่างรู้กันดีว่า การอ่านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะว่าไปการจะฝึกให้เราอ่านหนังสือได้ทุกวันนั้น ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังปฏิเสธที่จะอ่านหนังสือ ปฏิเสธที่จะให้เวลากับการอ่านหนังสือ จนทำให้ตัวเองพลาดโอกาสในการสั่งสมความรู้ ที่จะพาเราก้าวไปสู่ความสำเร็จที่เป็นเป้าหมายได้…อย่างน่าเสียดาย