ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็พูดกันแต่ว่า เราควรมีทักษะมากกว่าหนึ่งอย่าง และควรทำงานได้หลายอย่างหลายหน้าที่พร้อมกัน บริษัททั้งหลายต่างก็ต้องการพนักงานที่มี Multi Skill ซึ่งแม้ความสามารถในการทำงานหลากทักษะหลายหน้าที่ จะบ่งบอกถึงศักยภาพในการทำงานของบุคคลนั้นได้ดี แต่ในทางปฏิบัติจริงแล้ว การทำงานแบบเหมาทุกอย่างอาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
เมื่อต้องทำงานหลายอย่าง ใช้หลายทักษะ จัดการกับปัญหามากมายพร้อมกัน สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันทีเลยก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละอย่างจะลดลงอย่างมหาศาล เพราะเวลาที่จะทุ่มเทให้กับแต่ละงานนั้นจะถูกแย่งชิงไป ยิ่งเมื่อแต่ละขั้นตอนไม่ราบรื่น มีอุปสรรคเกิดขึ้น ก็ยิ่งผลักดันให้ต้องใช้ความคิดมากขึ้น สมอง ร่างกาย และจิตใจจึงเหนื่อยล้ามากขึ้น กลายเป็นคิดอะไรไม่ออก และทำงานออกมาได้ไม่มีประสิทธิภาพ
รวมถึงยังเสี่ยงทำให้ทำงานผิดพลาดได้มากขึ้น หรือเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุในการทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะเพียงแค่ส่งอีเมลผิดครั้งเดียว ลืมขั้นตอนใดไปขั้นตอนหนึ่ง หรือกดปุ่มเครื่องจักรผิดครั้งเดียว จากอาการเครียดและเหนื่อยล้า ก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่โตได้ในทันที
การทำงานในโลกปัจจุบัน เราต้องแยกประสาทหลายอย่าง ไหนจะต้องคุยโทรศัพท์ รับส่งอีเมล ตอบแชทลูกค้า ต้องประชุมทีม ประชุมกับลูกค้า ฯลฯ ลำพังเพียงแค่จัดการสิ่งเหล่านี้ กับงานหลักที่ต้องรับผิดชอบ สมาธิก็กระเจิดกระเจิงจนบริหารเวลาลำบากแล้ว เมื่อต้องมาทำงานหน้าที่อื่น ๆ ไปด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มความซับซ้อนไปอีกขั้น จริงอยู่ที่มีคนทำได้ และทำได้ดี
แต่ในความเป็นจริงอีกด้านที่ต้องเข้าใจก็คือ “ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประสิทธิภาพในการทำงานหลายอย่างเหมือนกันหมด” แท้จริงแล้ว ความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เป็นทักษะขั้นสูง เป็นความถนัดสำหรับบางบุคคลเท่านั้น ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างมาก
สุดท้ายแล้ว การพัฒนาตัวเราให้กลายเป็นคนที่ทำงานได้หลายอย่าง มี Multi Skill จะเป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน รู้จักว่าตัวเรามีจุดแข็ง จุดอ่อนอะไร เพราะทักษะบางอย่างที่ไม่ถนัด
แม้จะพัฒนาต่อไปก็อาจไม่เป็นผลดีเท่ากับการพัฒนาจุดแข็งให้แกร่งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน บริษัทที่มุ่งให้พนักงานทำงานได้หลายอย่าง ต้องการให้ทำหลายหน้าที่พร้อมกัน ก็ควรต้องพิจารณาให้ดีด้วยว่า พนักงานแต่ละคนนั้น มีทักษะการทำงานหลายหน้าที่ได้ดีจริงหรือไม่
เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะกลายเป็นสร้างความกดดันให้พนักงาน เป็นการมอบหมายหน้าที่ที่ไม่เหมาะให้ ไม่ตรงตามหลัก Put The Right Man on The Right Job จนสุดท้ายเมื่อเขาไม่สามารถรับผิดชอบงานได้ไหว ความผิดพลาดก็จะเกิดขึ้น และกลายเป็นความล้มเหลวทั้งของบริษัท และตัวพนักงานไปพร้อม ๆ กัน