แม้จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ชื่อและวิธีการทำงานของ “สตีฟ จ็อบส์” ก็ยังคงเป็นตำนาน เป็นแนวทางให้คนทุกรุ่นนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อผลักดันตัวเองให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ อย่างที่ฝันได้เสมอ
โดย 3 หลักปฏิบัติจากนี้ไป คือแนวทางการทำงาน ที่ สตีฟ จ็อบส์ ใช้ และทำให้เขาได้รับการยอมรับจากทั้งเพื่อนร่วมงาน และลูกค้า แบบไม่มีข้อสงสัย
1.หลงใหลในสิ่งที่ทำ
ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน การแสดงความคิดเห็น บอกเล่าไอเดีย หรือการขายงานใดๆ ก็แล้วแต่ การทำให้ผู้คนเห็น “ความหลงใหล” ของเราที่มีต่องานที่ทำนั้น จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้พบเห็น และทำให้เราได้รับการยอมรับในที่สุด
ครั้งหนึ่ง ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iTunes สตีฟ จ็อบส์ ได้เดินสายไปพบกับนักดนตรีจำนวนมาก เพื่อต้องการนำ iTunes เข้าสนับสนุนค่ายเพลงตามแผน ซึ่งในความเป็นนักคอมพิวเตอร์ของเขาที่ดูแล้วไม่น่าจะโน้มน้าวนักดนตรีได้นั้น
สตีฟ จ็อบส์ สามารถทำให้ Wynton Marsalis นักทรัมเป็ตชื่อดังตกหลุมรักได้ ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลต่องานที่เขามี
ถึงขั้นที่หลังจากได้คุยกันแล้ว Marsalis กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่นักคอมพิวเตอร์ ผมหลงใหลในความหลงใหลของเขามาก”
2.ซื่อสัตย์อย่างถึงที่สุด
สตีฟ จ็อบส์ คือหนึ่งในผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น CEO จอมโหด จอมเฮี้ยบ ถ้าทำห่วย ทำผิดพลาดไม่ได้เรื่องแล้ว ก็จะไม่มีหยวนให้เด็ดขาด
ทั้งนี้ ความซื่อสัตย์ที่สตีฟ จ็อบส์มีต่องานที่ทำ ให้คำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมานั้น จริงอยู่ที่อาจสร้างศัตรูจำนวนมากให้มีเกิดขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดกลุ่มคนที่เคารพในความสามารถ และพร้อมที่จะเชื่อฟังคำสั่ง ทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะเชื่อว่าจ็อบส์จะนำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จได้จริงๆ ด้วยความซื่อสัตย์ที่มี ทั้งนี้ ในการทำงานนั้น หากเราไม่ซื่อสัตย์ ไม่ดีบอกดี ดีบอกไม่ดี
นอกจากจะทำให้ไม่ได้งานที่มีคุณภาพแล้ว เรายังจะดูเป็นคนที่ไม่มีจุดยืนในสายตาคนอื่นด้วย ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความเคารพ ความนับถือเชื่อมั่น และไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ควรจะเป็น
3.ทำงานหนักอย่างเต็มที่
การทุ่มเทให้กับงานที่ทำ เป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลังที่สุดที่จะทำให้ทุกคนยอมรับในตัวเราได้ แม้เราอาจจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะ ไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นสุดโต่ง
แต่ถ้าเราทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างเห็นได้ว่า เราเต็มที่ เราเกินร้อย เราพร้อมจะช่วยเหลือทุ่มเททุกอย่างอย่างไม่อิดออดแล้วล่ะก็
สุดท้ายแล้วเราจะได้รับการยอมรับและเติบโตได้ในที่สุด ซึ่งสำหรับตัวสตีฟ จ็อบส์เองนั้น สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนรอบตัวต่างรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่เต็มที่กับงานมาก จนถึงขั้นทำงานหนักจนป่วยก็ยังไม่ยอมแพ้
ซึ่งด้วยความทุ่มเทที่เขามีต่องาน นอกจากจะทำให้ดีต่อตัวเขาเองแล้ว ก็ยังเป็นแรงผลักดันทำให้ทุกคนที่เห็นมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่มากขึ้นตามไปด้วย
ความสำเร็จในการทำงาน จะเกิดขึ้นได้มากแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ว่าเราเก่งแค่ไหน แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่าเราทำให้ทุกคนรอบข้างที่ทำงานร่วมกันกับเรายอมรับในตัวเราได้มากแค่ไหนด้วย
เพราะการยอมรับ จะนำมาซึ่งการเป็นน้ำหนึ่งในเดียว ที่ทำให้ทำงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ จนเพียงพอที่จะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจ
