Search
Close this search box.

แนวทางการวางแผน “อ่านหนังสือประจำปี 2568”

แนวทางการวางแผน “อ่านหนังสือประจำปี 2568” เพื่อการพัฒนาตนเอง โดยจะมีการแนะนำหนังสือ วิธีจัดสรรเวลา และลำดับการอ่าน

ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามบริบทและเป้าหมายของแต่ละคน

 


1. ตั้งเป้าหมายการอ่านและวางแผนเบื้องต้น

  1. กำหนดจำนวนหนังสือที่อยากอ่านตลอดปี
    • สมมติว่าวางเป้าหมายไว้ว่าจะอ่านประมาณ 12–15 เล่ม ตลอด 12 เดือน (เฉลี่ยเดือนละ 1 เล่ม หรือ 1.5 เล่ม)
    • เลือกหนังสือที่เหมาะกับเป้าหมายการพัฒนาตนเอง เช่น การปรับนิสัย (habit), การตั้งเป้าหมาย (goal-setting), การจัดการเวลาหรือชีวิต (time & life management), การพัฒนาด้านจิตใจ (mindset & mindfulness) ฯลฯ
  2. กำหนดช่วงเวลาและความถี่ในการอ่าน
    • ตัวอย่างเช่น อ่านทุกเช้า 20 นาที หรือก่อนนอน 20–30 นาที
    • หรือแบ่งอ่านเป็นช่วงสั้น ๆ ช่วงกลางวัน / ช่วงเบรก / หลังเลิกงาน ฯลฯ
    • เลือกเวลาที่สมองโปร่งและมีสมาธิ เพื่อให้เข้าใจและจดจำได้ดี
  3. จัดลำดับหนังสือให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
    • เริ่มจากหนังสือที่เน้นสร้างนิสัยเชิงบวก หรือการจัดการชีวิต เพื่อวาง “โครงสร้าง” ของการพัฒนาตนเอง
    • ค่อย ๆ ไต่ระดับไปยังหนังสือที่ต้องการทักษะการคิดวิเคราะห์ หรือเป็นแนวลงลึกด้านใดด้านหนึ่ง

 


2. ตัวอย่างรายชื่อหนังสือแนะนำตลอดปี 12 เล่ม

เพื่อความสะดวก ขอจัดลำดับตามเดือน (สามารถปรับได้ตามความสนใจและความสะดวกของผู้อ่าน)

  1. (มกราคม) “Atomic Habits” โดย James Clear
    • แนวทางการปรับเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างได้ผลยั่งยืน
    • เหมาะเป็นหนังสือเริ่มต้นปี เพราะช่วยให้เราเห็นความสำคัญของ “การพัฒนาแบบทีละนิด” จนเกิดเป็นนิสัยที่เข้มแข็ง
  2. (กุมภาพันธ์) “The 7 Habits of Highly Effective People” โดย Stephen R. Covey
    • หนังสือคลาสสิกของการพัฒนาตนเองที่แนะนำ 7 อุปนิสัยที่ช่วยให้เรามีประสิทธิผลและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
  3. (มีนาคม) “Essentialism” โดย Greg McKeown
    • ว่าด้วยศิลปะของการ “เลือกทำสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ” และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในชีวิตและการทำงาน
  4. (เมษายน) “Deep Work” โดย Cal Newport
    • สำรวจวิธีการทำงานเชิงลึก (Deep Work) เพื่อสร้างผลงานและความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น ท่ามกลางการรบกวนในยุคดิจิทัล
  5. (พฤษภาคม) “Mindset: The New Psychology of Success” โดย Carol S. Dweck
    • อธิบายแนวคิด “Growth Mindset” และ “Fixed Mindset” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และการรับมือกับอุปสรรค
  6. (มิถุนายน) “Grit: The Power of Passion and Perseverance” โดย Angela Duckworth
    • เน้นเรื่องความเพียรและความหลงใหล (Passion & Perseverance) ว่าทำให้คนประสบความสำเร็จได้อย่างไร ไม่ใช่แค่ “พรสวรรค์”
  7. (กรกฎาคม) “Ikigai: The Japanese Secret to a Long and Happy Life” โดย Hector Garcia, Francesc Miralles
    • ว่าด้วยแนวคิด “อิคิไก” ของญี่ปุ่น การตามหาความหมายของชีวิตที่ทำให้เราอยากตื่นขึ้นมาทุกเช้า และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
  8. (สิงหาคม) “อยู่กับกาย อยู่กับใจ” (หรือหนังสือแนว Mindfulness / การเจริญสติตามชอบ)
    • เลือกได้ทั้งงานเขียนของพระอาจารย์ หรือผู้เขียนที่เน้นเรื่องการฝึกสติ สมาธิ เน้นการดูแลจิตใจ เพื่อความผ่อนคลายและสงบ
  9. (กันยายน) “เล่มของนิ้วกลม” (เลือกอ่านตามความสนใจ)
    • ตัวอย่างเช่น “เพลงรักจากดาวอังคาร” หรือ “คิดมาก” ซึ่งเน้นแง่คิด ชีวิต การเดินทาง ต่อยอดการพัฒนามุมมองชีวิต
  10. (ตุลาคม) “Start with Why” โดย Simon Sinek
    • เน้นแนวคิด “Golden Circle” การตั้งคำถาม “ทำไม” เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการลงมือทำและการสร้างแรงบันดาลใจในตนเองและผู้อื่น
  11. (พฤศจิกายน) “เล่มที่เกี่ยวกับการเงินและการลงทุน”
    • เช่น “The Psychology of Money” โดย Morgan Housel หรือ “ชนะในเกมที่คุณเล่น” (หรือหนังสือการเงินอื่น ๆ ที่เน้นความเข้าใจแนวคิดและนิสัยในการใช้เงิน)
    • เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตนเองเช่นกัน
  12. (ธันวาคม) “สรุปองค์ความรู้การพัฒนาตนเอง” หรือ “หนังสือแนวสรุปบทเรียนชีวิต”
    • อาจเป็นหนังสือเล่มที่รวบรวมบทเรียนของผู้ประสบความสำเร็จ หรือหนังสือแนวสรุปไอเดียของหลาย ๆ เล่มที่ผ่านมา
    • เพื่อปิดปีด้วยการทบทวนและสรุปบทเรียนต่าง ๆ ก่อนตั้งเป้าหมายปีถัดไป

หากต้องการเพิ่มหนังสือภาษาไทยโดยผู้เขียนไทย สามารถปรับเปลี่ยนบางเล่มเป็นผลงานของนักเขียนไทยที่ถนัด เช่น หนังสือของ “หนุ่มเมืองจันท์” หรือ “นิ้วกลม” หรือหนังสือ How-to ไทยเล่มอื่น ๆ ตามความชอบ

 


3. การจัดสรรเวลาการอ่านและเคล็ดลับ

  1. กำหนด “ช่วงเวลา” ที่แน่นอน
    • หากคุณเลือกอ่านวันละ 20–30 นาที ให้กำหนดเวลาชัดเจน เช่น ก่อนนอน 21.30–22.00 น. หรือช่วงเช้า 6.30–7.00 น.
    • ตั้งการแจ้งเตือนในสมาร์ตโฟนหรือปฏิทินเป็นกิจวัตร เพื่อให้ร่างกายและจิตใจคุ้นชิน
  2. ตั้งเป้าหมายต่อวัน/สัปดาห์
    • เช่น ตั้งเป้าอ่านให้ได้ 10–15 หน้า ต่อวัน หรือ อ่านให้ได้ 1–2 บทต่อวัน
    • หากวันไหนยุ่งมาก สามารถสะสมไปอ่านเพิ่มในวันหยุดหรือวันว่างได้
  3. ใช้เทคนิค “Pomodoro” หรือ “Reading Sprint”
    • อ่าน 25 นาที แล้วพัก 5 นาที (1 Pomodoro) เพื่อให้มีสมาธิสูงสุดในช่วงเวลาสั้น ๆ
    • เทคนิคนี้ช่วยป้องกันความเบื่อและสร้างวินัยได้ดี
  4. พกหนังสือ (หรือ E-book) ติดตัว
    • หากมีเวลาว่าง 5–10 นาที ระหว่างรอหรือต่อคิว ก็สามารถหยิบขึ้นมาอ่านได้ทันที
    • E-book และ Audiobook เป็นทางเลือกที่ดี หากเดินทางบ่อยหรือใช้เวลาอยู่บนรถไฟฟ้า/รถเมล์
  5. จดบันทึก / สรุปใจความสำคัญ
    • เขียนสรุปลงสมุดหรือใช้แอปจดบันทึก (Notion, Evernote ฯลฯ) เพื่อให้จำประเด็นหลักได้และกลับมาทบทวนได้ง่าย
    • วิธีนี้จะช่วยให้เกิดการ “ทบทวน” และ “เชื่อมโยง” ความรู้ระหว่างเล่มต่าง ๆ

 


4. การวัดผลและประเมินผลลัพธ์

  1. ทำสรุปรายเดือน
    • หลังอ่านแต่ละเล่มเสร็จ ลองเขียนบันทึกว่าได้ข้อคิดหรือประเด็นสำคัญอะไรที่อยากนำมาปรับใช้ในชีวิต
    • ประเมินว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ (อ่านให้จบในกี่วัน/กี่สัปดาห์) ตรงตามแผนหรือไม่
  2. แชร์หรือแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น
    • การได้เล่าหรืออธิบายสิ่งที่อ่านให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวฟัง จะช่วยให้เข้าใจและจำได้แม่นยำขึ้น และอาจได้มุมมองใหม่จากผู้อื่นด้วย
  3. ปรับเปลี่ยนแผนตามความเหมาะสม
    • หากบางเล่มอ่านยากหรือไม่ตรงความสนใจ สามารถปรับข้ามหรือเปลี่ยนเล่มที่ใกล้เคียงได้
    • ถ้ารู้สึกว่าแผนการอ่านแน่นเกินไป ให้ลดจำนวนเล่ม หรือเพิ่มระยะเวลาอ่านแต่ละเล่มขึ้น

 


5. สรุป

  • ตั้งเป้าหมาย: กำหนดจำนวนเล่มและแนวหนังสือให้ชัดเจน
  • วางแผนเวลา: จัดตารางอ่านที่แน่นอน (เช้า/ก่อนนอน/พักเที่ยง) หรือใช้เทคนิค Pomodoro
  • เลือกหนังสือ & ลำดับ: แบ่งตามหมวดหมู่ที่ต้องการพัฒนาตนเอง ค่อย ๆ ไล่จากเล่มที่วางพื้นฐานสู่วิธีคิดเชิงลึก
  • ลงมือปฏิบัติและวัดผล: บันทึก สรุป และปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตนเองอยู่เสมอ

ด้วยแผนการอ่านอย่างมีระบบ และการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถพัฒนานิสัยการอ่านและพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2568 (2025) ขอให้สนุกและได้ประโยชน์จากการอ่านนะคะ!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า