Search
Close this search box.

50 Marketing Frameworks มองการตลาดภาพใหญ่ให้ธุรกิจไปถูกทิศ

หัวใจของการทำธุรกิจ คือการคิดเป็นภาพใหญ่
50 เฟรมเวิร์กที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพ
การตลาดทุกมิติ เพื่อจะทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ
ดูว่าต้องดูรั่วตรงไหน หรือขยายโอกาสเรื่องใดได้บ้าง❓
โดยคุณจิตติพงษ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคม
MarTech Association Thailand
.
📍Business frameworks วางหมุดหมาย
ธุรกิจชัดเจน
📍Product Strategy Frameworks
ทำสินค้าให้คนอยากซื้อซ้ำ
📍Branding Frameworks ปั้นแบรนด์
ให้ติดหูคนทั่วไป
📍Marketing Channels Frameworks
สื่อสารตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
📍Technology & Data Frameworks
อัปยอดขายด้วยดาต้า
.
1.50 Marketing Frameworks
เข็มทิศที่เวิร์กมากสำหรับนักการตลาด
.
ถ้ามี “Framework” หรือ “กรอบการตลาด”
ช่วยนำทางนักการตลาดทั้งมือใหม่และมือเก่า
เหมือนมีเข็มทิศการตลาดที่ทำให้เราทำงาน
ได้ตามเป้าที่วางไว้
.
Marketing Frameworks คือ แนวคิด ปรัชญา
กรอบการทำงานหรือชุดความคิดทางการตลาด
ที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยกำหนดทิศทาง
การทำการตลาดได้ถูกต้อง
.
โดย Marketing Frameworks ส่วนใหญ่
จะถูกออกแบบในลักษณะของภาพ (Visual)
และแบบอย่าง (Model)
โดยลักษณะของ Visual ที่นิยมไปใช้งาน
ในการตลาดนั้นมีรูปแบบ ดังนี้
.
📍Overlap
Overlap Visual ส่วนใหญ่จะเลือกใช้
ภาพวงกลมตั้งแต่ 2 วงขึ้นไปมาซ้อนทับกัน
โดยการใช้ Visual แบบนี้ ในบางทีก็จะถูกเรียกว่า
Venn Diagram และ Frameworke Visuals
.
รูปแบบนี้วงกลมแต่ละวงจะมีความหมาย
หรือนิยามของตัวเอง ส่วนพื้นที่ที่วงกลม
ซ้อนทับกันก่อให้เกิดความหมาย
หรือนิยามใหม่ขึ้นมา
📍Collective Action
Collective Action Visual รูปแบบเฟรมเวิร์กนี้
สะท้อนให้เห็นว่าแต่ละส่วนของกราฟิก
แทนด้วยหน้าที่การทำงาน และทั้งหมดล้วน
ต้องเคลื่อนไหวสอดประสานกันอย่างดี
.
โดยสามารถสื่อความหมายชัดเจนว่า
การที่จะขับเคลื่อนกิจกรรม เราต้องขับเคลื่อน
องค์ประกอบเล็กๆสิ่งใดบ้าง
.
📍Matrix
Matrix Visual บ่อยครั้งการแสดงผล
ในรูปแบบของตารางก็ทำให้สื่อความหมาย
เข้าใจง่าย โดยเฉพาะ Matrix ประเภท 2×2ช่อง
ที่ได้นำไปใช้แพร่หลาย
และ Matrix Frameworke ที่มีชื่อเสียง
โด่งดัง ได้แก่ Gartner’s Magic Quadrant
ที่คิดค้นโดยบริษัท Gartner
.
จุดเด่นของ Frameworks ประเภทนี้คือ
การแบ่ง Dimension ดูมิติตามบริบทต่างๆ
โดยแบ่งน้ำหนักมากน้อยตามทิศทาง
📍Ring Network
Ring Network Visual สื่อความหมายถึง
การทำงานต่อเนื่องกันทีละ Node
และแต่ละ Node ต้องทำงานได้ถูกต้อง
และเมื่อทำงานครบรอบกระบวนการ
ก็จะเริ่มต้นใหม่…
.
Ring Network Framework ที่โด่งดัง
และถูกใช้แพร่หลายได้แก่ Lean Startup Cycle
ที่ประกอบไปด้วยขั้นตอนคือ
Build-Measure-Learn ที่ใช้ Ring Network
ในการอธิบายว่าการทำธุรกิจสตาร์ตอัป
ตามแนวคิดนี้ต้องเริ่มจาก
⭐ Build การเริ่มสร้างสินค้า และการนำออกสู่ตลาด
⭐ Measure การกำหนดวิธีวัดผลการทำธุรกิจ
⭐ Learn วิเคราะห์สิ่งที่ได้เรียนรู้จากความสำเร็จ
และความผิดพลาด
📍Conentric Circle
Conentric Circle Visual คือ
รูปแบบเฟรมเวิร์กที่สื่อว่าวงกลมในแต่ละชั้น
ล้วนเป็นส่วนประกอบของวงกลมที่ใหญ่กว่า
โดยวงกลมด้านใน (Core) ถือเป็นแกนสำคัญ
ส่วนวงกลมอื่นๆล้วนต่อยอดมาจากวงด้านในทั้งสิ้น
.
2.แบ่งประเภทการทำการตลาดหลากหลายรูปแบบ
การตลาด คือการนำสินค้าและบริการ
เข้าสู่ตลาด เพื่อให้เกิดการรับรู้ของสินค้า
และบริการ โดยอาจเริ่มที่ทำให้ลูกค้าเห็นสินค้า
และเกิดการจดจำ อาจมีการให้ความสำคัญ
กับการสร้างตราสินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
(Unique)
.
เพื่อให้สินค้านั้นเป็นที่จดจำและนึกถึง
(Recognition) มีการใช้ช่อทางการตลาด
ที่หลากหลายรูปแบบ (Channels)
มีการโน้มน้าว (Convincing) ทำให้เกิดการ
ซื้อสินค้าด้วยเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ
อาจมีบริการหลังการขาย (Aftersaes Service)
เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในสินค้า (Trustworthy)
มีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า
เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้ภักดีกับสินค้าเรา (Loyalty)
.
กรวยการตลาด (Marketing Funnels หรือ
Customer Stages) เราสามารถสร้าง
การสื่อสารหลากหลายรูปแบบผ่านช่องทางต่างๆ
มากมายตลอดทั้ง Customer Journey
.
โดยในแต่ละ Stage จะมีจุดเชื่อมต่อกับลูกค้า
หรือ Touchpoint ผ่านสื่อต่างๆได้ ดังนี้
.
📍การพยายามขยายการตลาดให้ครอบคลุมวงกว้าง
📍การพยายามให้กลุ่มเป้าหมายมีปฏิสัมพันธ์กับเรา
📍ปิดการขายผ่านทางดิจิทัลหรือคนช่วยปิด
การขาย
📍สื่อสารกับลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง
ความประทับใจและความภักดีในแบรนด์
.
ช่องทางการตลาด (Marketing Channels)
หมายถึงช่องทางให้แบรนด์ หรือเจ้าของสินค้า
และบริการ เชื่อมต่อกับผู้บริโภค หรือกลุ่มเป้าหมาย
.
ซึ่งในปัจจุบันการเชื่อมต่อการระหว่าง
กลุ่มเป้าหมายกับแบรนด์มักจะเป็นในรูปแบบ
ฝ่ายทิศทาง หรือที่เรียกว่า Omni-Channels
และมักจะเป็นช่องทางที่สามารถปฏิสัมพันธ์กัน
ได้ทั้งไปและกลับ หรือ 2 Ways Communication
.
จุดประสงค์การตลาด หรือ Marketing Objectives
ที่สำคัญในปัจจุบันได้แก่
📍Brand Awareness การเพิ่มการเรียนรู้
ในแบรนด์สินค้า
📍Traffic การเพิ่มอัตราเข้าชมเว็บไซต์
📍Branch Visitor การเพิ่มจำนวนผู้ชม
หน้าร้านหรือสาขา
📍Lead Generation การเก็บข้อมูล
กลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
📍Sales Value การให้ความสำคัญกับ
ยอดขายเป็นสำคัญ
📍 Decrease Acquistion Cost การลดค่าใช้จ่าย
ในการหาลูกค้าใหม่
📍Maximize CLV (Customer Lifetime Value)
การทำให้มูลค่าที่ได้รับตลอดชีวิตเพิ่มขึ้น
📍Increase Market Share การเพิ่มส่วนแบ่ง
ทางการตลาดในกลุ่มสินค้าเดียวกัน
📍Increase Social Followers การเพิ่ม
ผู้ติดตามใหม่ช่องทาง Social Network
📍Churn Prevention การป้องกันลูกค้าเก่า
หยุดหรือยกเลิกใช้บริการ
.
3.แบ่ง Marketing Frameworks ตามประเภทการตลาด
“Market Research Frameworks”
เข็มทิศวิเคราะห์ตลาดและผู้บริโภค
ขั้นตอนสำคัญการเริ่มดำเนินธุรกิจ
และก่อนการดำเนินกิจกรรมการตลาดคือ
ขั้นตอนวางแผน (Planning) และกิจกรรม
การตลาดสำคัญในขั้นตอนวางแผนนี้คือ
การวิเคราะห์ตลาดและผู้บริโภคหรือ
Market Research
.
โดยกระบวนการคือการวิเคราะห์ความสามารถ
ในการแข่งขันในตลาดกับคู่แข่ง
วิเคราะห์ความต้องการผู้บริโภค วิเคราะห์วิธี
การสร้างรายได้ และเปรียบเทียบความสามารถ
ในการแข่งขันกับคู่แข่ง
.
“BCG Matrix Modle ออกแบบโดย
Boston Consultiog Group”
BCG Matrix Modle หรืออาจจะเรียกว่า
Growth-Share Matrix เป็น Frameworke
ที่ออกแบบโดย Boston Consultiog Group
บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการและธุรกิจ
จากประเทศสหรัฐอเมริกา
.
สำหรับ BCG Matrix Modle ประกอบไปด้วย
กล่องสี่เหลี่ยม 4 กล่อง โดยแต่ละกล่องแทนที่
ด้วยสัญลักษณ์ที่สะท้อนลักษณะของธุรกิจนั้นๆ
โดยแต่ละกองทุนจัดเรียงตามแกนดังนี้
.
📍แกนนอน แทนที่ด้วยส่วนแบ่งตลาด
เชิงเปรียบเทียบ (Relative Market Share)
📍แกนตั้ง แทนที่ด้วยโน้มน้าวการเติบโต
ของตลาด (Market Growth Rate)
.
“PESTEL Analysis”
เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยประเมิน
โอกาสทางการแข่งขันทางธุรกิจในแง่มุมต่างๆ
ดูอักษรแต่ละตัวประกอบไปด้วย PESTEL
ที่ย่อมจาก
————————————————
⭕Political ปัจจัยทางการเมือง
⭕Econmics ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
⭕Social ปัจจัยทางสังคม
⭕Technological ปัจจัยทางเทคโนโลยี
⭕Environmental ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม
⭕Legal ปัจจัยทางกฎหมาย
.
การเขียน PESTEL Analysis จะสะท้อน
ให้เห็นว่าธุรกิจนั้น มีวิสัยทัศน์และมีความสามารถ
ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางภายในและภายนอก
ได้อย่างดีแค่ไหน
.
“The Pragmatic Frmework ออกแบบโดย
Pragmatic lnstitute”
Pragmatic lnstitute เป็นสถาบันด้าน
การตลาดและดาต้าที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1993
โดยทาง Pragmatic ได้ออกแบบเป็น
เฟรมเวิร์กที่แบ่งออกเป็น 2 แกนสำคัญ
ได้แก่ แกนซ้าย กลยุทธ์ (Strategy)
และแกนขวา การปฏิบัติงาน (Execution)
โดยมีหมวดหมู่เรียงจากซ้ายไปขวา
.
“Mosaic™B2B Market Research
Framework ออกแบบโดย B2B international”
บริษัท B2B international เป็นบริษัท
วิจัยทางการตลาดหรือ Market Research Firm
สำหรับ Mosaic™B2B Market Research
Framework จะช่วยให้เราวางแผนการดำเนิน
กิจการทางธุรกิจตามขั้นตอนที่เหมาะสม
.
“Ansoff Matrix ออกแบบโดย Igor Ansoff”
Igor Ansoff นักคณิตศาสตร์และที่ปรึกษา
ทางธุรกิจชาวรัสเซียเป็นผู้ได้รับการยอมรับว่า
เป็นบิดาแห่งวงการบริหารธุรกิจ
.
Igor Ansoff คิดค้น Matrix เพื่อวางกลยุทธ์
การเจริญเติบโตทางธุรกิจ (Growth Strategy)
อย่างมีแบบแผน🙂
.
“Porter’s Five Forces ออกแบบโดย
Michael E.Porter”
Michael E.Porter หรือ Michael Eugene Porter
ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักทฤษฎีเศรษฐศาสตร์
และนักกลยุทธ์ทางธุรกิจ
โดยไมเคิลได้คิดค้น Five Forces Model
.
⭕Competitive Rivalry Force ภาวะการแข่งขัน
⭕ Threat of New Entry Force ภัยคุกคาม
จากคู่แข่งขันรายใหม่
⭕ Bargaining Power of Suppliers Force
อำนาจการต่อรองกับซัปพลายเออร์
⭕ Bargaining Power of Buyers Force
อำนาจการต่อรองกับผู้บริโภค
⭕ Threat of Substitute Products or
Services Force การทดแทนของสินค้าในตลาด
.
4.Business Frameworks เข็มทิศการทำธุรกิจให้เติบโต
.
หลังจากวิเคราะห์ตลาดและผู้บริโภคแล้ว
การเริ่มดำเนินธุรกิจก็ควรมีการวางกรอบ
การดำเนินธุรกิจเป็นขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น
การหารายได้ การจัดการซัพพลาย
และการจัดการพาร์ตเนอร์ธุรกิจ
ทุกสิ่งล้วนสำคัญกับความก้าวหน้า
ทางธุรกิจ โดยไม่อาจขาดสิ่งใด
สิ่งหนึ่งไปได้…
.
เฟรมเวิร์กที่ช่วยทำให้เรากำหนดกรอบ
การดำเนินธุรกิจ (The Value Proposition)
การหาคุณค่าที่สำคัญทางธุรกิจ
การใช้แผ่นแคนวาส เพื่อสื่อสารโครงสร้าง
การดำเนินธุรกิจให้ผู้รับสารเข้าใจได้โดยง่าย
.
การใช้เฟรมเวิร์คเพื่อช่วยปรับโครงสร้างองค์กร
(Transformation) ในยุคดิจิทัลได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ และการใช้เฟรมเวิร์ค
เพื่อกำหนดทิศทางใดได้ขององค์กร
โดนเฟรมเวิร์คที่เหมือนเข็มทิศสำคัญ
ในการกำหนดทิศทาง
READ  ที่...หัวมุมถนน
5.Product Strategy Frameworks
เข็มทิศการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์
.
กลยุทธ์การพัฒนาสินค้า ถึงเป็นหัวใจสำคัญ
ของการทำธุรกิจที่จะมีผลกระทบ
กับการทำการตลาดในอนาคต
.
เฟรมเวิร์กที่ช่วยให้เราพัฒนาสินค้าและบริการ
ตรงใจผู้บริโภค ทำให้เราวิเคราะห์ความต้องการ
และพฤติกรรมผู้บริโภคได้ลึกซึ้ง
.
ก่อให้เกิดความสามารถในการสร้างสินค้าใหม่ๆ
ที่ตอบสนองความต้องการที่ไม่เคยถูกค้นพบ
มาก่อน (Unmet Needs)
.
การเลือกเฟรมเวิร์คในการวางแผนพัฒนาธุรกิจ
สินค้าให้เหมาะสม จะทำให้สินค้าของเรา
ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
สามารถต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งให้สินค้า
ด้วยการวางแผนการสร้างตราสินค้า
(Branding) ได้
.
6.Branding Frameworks เข็มทิศการสร้างตราสินค้า
ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การพัฒนา
แบรนด์หรือตราสินค้า เพราะในปัจจุบันผู้บริโภค
ไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าจากการดูแค่ว่า
สินค้านั้นราคาถูกที่สุด หรือดีที่สุด
แต่ผู้บริโภคบางส่วนตัดสินใจซื้อสินค้านั้น
เพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ หรือความรู้สึก
ภาคภูมิใจในการใช้สินค้าแบรนด์นั้น
.
การวางกลยุทธ์ตราสินค้าหรือการทำแบรนดิ้ง
ยังคงมีความสำคัญต่อการทำการตลาด
การสร้างสินค้า และการดำเนินธุรกิจ
ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็น และเกิดการรับรู้
ต่อแบรนด์ของเราไปในทิศทางที่เราคาดหวัง
และสามารถเลือกวิธีการทำการตลาด
และช่องทางการทำการตลาด
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
7.Digital Marketing Frameworks
เข็มทิศการทำการตลาดดิจิทัลให้มีระบบ
.
การทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล
ได้รับการยอมรับว่าเป็นช่องทางหลักในการ
สื่อสารกับผู้บริโภค แต่การทำการตลาด
ผ่านช่องทางนี้มีความท้าทายมากมาย
ไม่ว่าเป็นความหลากหลายในการเชื่อมต่อ
กับลูกค้า การแข่งขันกันอย่างรุนแรง
หรือการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม
ที่เราทำการตลาด
.
เฟรมเวิร์กจะช่วยทำให้เราออกแบบกลยุทธ์
(Strategy) ยุทธวิธี (Tactics) ได้อย่างมีระบบ
แบบแผน มีการวางขั้นตอนเป็นระบบ ช่วยทำให้
เห็นกรอบการสื่อสารการตลาดให้เหมาะสม
.
การตลาดดิจิทัล หรือ Digital Marketing
เข้าไปเกี่ยวโยงกับการตลาดมากมาย
สิ่งสำคัญต่อไปก็คือ การกำหนดกลยุทธ์
ในแต่ละช่องทางการตลาดให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
.
8.Marketing Channels Frameworks
เข็มทิศการดูแลช่องทางการสื่อสารการตลาด
.
การดูแลช่องทางการสื่อสารการตลาด
เป็นสิ่งสำคัญในความสำเร็จธุรกิจ
เพราะช่องทางการสื่อสารการตลาด
เป็นตัวกลางที่ช่วยสื่อสารข้อมูล แนะนำสินค้า
หรือบริการของแบรนด์ ไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
โดยการมีกลยุทธ์การดูแลช่องทางการตลาด
ที่ดีจะช่วยส่งเสริมธุรกิจดังนี้
.
⭕ ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ได้มากขึ้น โดยที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึง
หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น และสามารถตอบกลับ
ได้อย่างรวดเร็ว
⭕ ช่วยให้วางแผนการสื่อสารการตลาด
แต่ละช่องทางให้เหมาะสม
⭕ วัดผลการทำการตลาดในช่องทางต่างๆ
ได้อย่างละเอียด
⭕ ทำสื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้งบประมาณการตลาดน้อยลง
โดยที่ยอดขายเพิ่มขึ้น
⭕ ดูแลกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าเก่าได้อย่างต่อเนื่อง
.
การเข้าใจและเลือกใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสม
กับแต่ละช่องทางการตลาด เพื่อจะดูแลและ
สื่อสารกับลูกค้าได้ราบรื่นไร้รอยต่อ
.
9.Technology & Data Frameworks
เข็มทิศการใช้เครื่องมือและข้อมูลเพื่อการตลาด
.
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเติบโตรวดเร็ว
และจะยิ่งพัฒนาความสามารถได้ก้าวกระโดด
ในอนาคตอันใกล้
.
การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กับการทำธุรกิจ
และการตลาดจะมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้น
มากเรื่อยๆดังนี้
.
⭕สร้างประสบการณ์ลูกค้า
เช่น การใช้โปรแกรมและโมดูลในการสร้าง
สิ่งต่างๆเพื่อเพิ่มความสนใจและความพึงพอใจ
ของลูกค้า…
⭕เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพ
การใช้เทคโนโลยีช่วยทำให้เราเข้าถึง
กลุ่มเป้าหมายรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องทางต่างๆ เช่น
โซเชี่ยลมีเดีย อีเมล หรือโฆษณาทางออนไลน์
เพื่อเพิ่มโอกาสเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย
⭕วิเคราะห์ข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีช่วยให้รวบรวมข้อมูลมากขึ้น
และทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่าง
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
⭕การสื่อสารและการเชื่อมต่อลูกค้าได้มีประสิทธิภาพ
อีกทั้งยังสื่อสารกับลูกค้าได้รวดเร็ว รวมถึง
มีการสื่อสารและเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ
.
เครื่องมือด้านการตลาด (Martech)
และเครื่องมือจัดการข้อมูล (Data Platforms)
มีมากกว่า 10,000 เครื่องมือ ในปี 2022
และจะยิ่งมีเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆจาก
ความก้าวหน้าด้าน Cloud Computing
และการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก
มากขึ้นเรื่อยๆ…
.
นักธุรกิจหรือนักการตลาดสมัยใหม่
จะต้องศึกษากลยุทธ์การนำ Technology & Data
มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
.
10.CRM Frameworks เข็มทิศเพื่อสร้าง
ความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างยั่งยืน
.
CRM ย่อมาจาก “Customer Relationship
Management” เป็นกระบวนการการทำงาน
กลยุทธ์การดูแลลูกค้า หรือรูปแบบกิจกรรม
การตลาดที่มีเป้าหมายเพื่อบริหารจัดการ
ความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย
.
ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในระบบ ไปจนถึงลูกค้า
เก่าที่เคยซื้อสินค้าและบริการแล้ว สื่อสารข้อมูล
ข่าวสารกับกลุ่มเหล่านี้ได้ต่อเนื่อง
โดยประโยชน์ของการทำ CRM ที่สำคัญมีดังนี้
.
⭕Centralize Customer Data
การจัดเก็บข้อมูลลูกค้าในระบบศูนย์กลาง
จะช่วยให้พนักงานทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามการสื่อสารโต้ตอบระหว่างเรากับลูกค้า
และจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
.
การบริการลูกค้าเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้ามากขึ้น
⭕Increased Sale Efficiency
ในการใช้ระบบ CRM เพื่อติดตามการขาย
ที่เรียกว่า Sale Pipeline พนักงานขาย
กำหนดกิจกรรมการขายล่วงหน้าลงในระบบ
เช่น การโทรติดตามผลการเตรียมนัดกลุ่มเป้าหมาย
เพื่อนำเสนอสินค้า การส่งกลุ่มเป้าหมายให้
พนักงานขายท่านอื่น และระบบ CRM ส่วนใหญ่
ก็มีความสามารถในการแจ้งเตือนกิจกรรม
ในที่ต้องทำเมื่อใกล้ถึงกำหนดได้โดยอัตโนมัติ
⭕Improved Team Efficiency
การใช้ระบบ CRM ทำให้ส่งผ่านขั้นตอน
การทำงานได้ เช่น การป้อนข้อมูล การนัดหมาย
การติดตามลูกค้า การรายงานผลการขาย
ให้ผู้บังคับบัญชาและการสร้างแดชบอร์ด
รายงานประจำเดือน ทำให้ประหยัดเวลา
และทรัพยากร และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ของทีมงาน👫
⭕Sales Analytics
การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก และวิเคราะห์ข้อมูล
การขายลึกขึ้น สามารถนำมาปรับปรุงกลยุทธ์
การตลาดและการขายได้แม่นยำ ช่วยให้ตัดสินใจ
เชิงธุรกิจได้ด้วยข้อมูลนำไปสู่การเติบโต
ทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
⭕Data Policy & Security
การมีระบบ CRM ทำให้บริหารจัดการข้อมูล
ของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย
และปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ลดปัญหา
การเข้าถึงข้อมูลลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ลดการสูญหายของข้อมูลสำคัญ จัดการสิทธิ์
การเข้าถึงข้อมูลแก่ผู้ใช้งานระบบได้เหมาะสม
และให้ลูกค้าใช้สิทธิ์ในการเข้าถึง แก้ไข
หรือลบข้อมูลตัวเองได้ตามกฎหมาย
⭕Increased Reputchase & Retention
การนำ CRM มาใช้เพื่อให้เห็นข้อมูลเชิงลึกต่างๆ
มาปรับปรุงการทำการตลาดช่วยรักษาลูกค้าเดิม
ให้ยั่งยืนและสร้างความภักดีในระยะยาว
โดยสร้างยอดขายสินค้าจากลูกค้าเก่า
ที่กลับมาซื้อซ้ำ หรือรักษาลูกค้าเก่าที่จ่ายค่า
บริการรายเดือนหรือรายปี ให้ใช้สินค้ากับเรา
ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มปริมาณรายได้ที่ได้รับจาก
ลูกค้าคนหนึ่งในระยะเวลาหรือ
Customer Lifetime Value
.
การทำธุรกิจแต่ละขั้นตอนก็เหมาะกับ
การเลือกใช้เฟรมเวิร์กที่ไม่เหมือนกัน
และธุรกิจแต่ละประเภท (เช่น B2B และ B2C)
ที่ต้องการการมีส่วนร่วมของลูกค้าในระดับ
แตกต่างกัน (Level of Involvement)
ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับ
แต่ละเฟรมเวิร์กไม่เท่ากัน
บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า