ฉุดธุรกิจปากเหวให้ฟื้นคืนชีพ แปลจากหนังสือเบสต์เซลเลอร์ของญี่ปุ่นเรื่อง “3 วิธีฟื้นคืนชีพให้ธุรกิจปากเหว” ผู้เขียนคือ “นากายามะ ยูอิจิโร” โดยในเล่มมีการเพิ่มเนื้อหาอัพเดทให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจสังคมไทยในปัจจุบัน เป็นเนื้อหาสำหรับการเพิ่มผลิตภาพ และพลิกฟื้นธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงอิ่มตัวหรือถดถอย
ผู้เขียนได้ใช้หลักการในหนังสือเล่มนี้ พัฒนาธุรกิจโรงงานกระดาษเล็ก ๆ ในจังหวัดฟุคุอิได้สำเร็จ จากธุรกิจที่อยู่ในระยะอิ่มตัว และดูเหมือนจะไม่มีอนาคตอันสดใส ได้ใช้หลักการในเล่มนี้มากว่า 14 ปี เพิ่มยอดขาย 100 ล้านเยนได้ และยังใช้อบรมผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 6,000 คน หนังสือเล่มนี้จึงมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากครับ สำหรับนักธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะใครที่กำลังรู้สึกว่า ธุรกิจกำลังมีปัญหา
เนื้อหาไม่ได้เยอะ ไม่ได้หนักมาก สามารถอ่านรวดเดียวได้จบในไม่กี่ชั่วโมง แต่ด้วยความที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน ทำให้มีเรื่องเล่า กรณีตัวอย่างแทรกให้อ่านตลอดทาง ทำให้เราได้มุมมองที่หลากหลาย เรื่องเดียวกัน คนละคนเล่า คนละคนอ่าน ก็อาจจะให้ความหมายไม่ตรงกัน
การเป็นที่ 1 ในตลาดเฉพาะเจาะจง
เป็นทางลัดสู่ความสำเร็จ
ของบริษัทขนาดเล็ก
ในอุตสาหกรรมอิ่มตัว / ถดถอย
สรุปประเด็นสำคัญ
- เปิดโนว์ฮาว
- สร้างชุมชน
- สร้างแบรนด์
ธุรกิจกำลังแย่ ยอดขายหด
เห็นชื่อปกหนังสือเล่มนี้
คงสนใจอยากรู้ว่าจะมีอะไร
ที่เป็นเคล็ดวิชาที่ช่วยแก้ปัญหาได้
ส่วนตัวเห็นจากปกก็พอจะสรุปได้
ว่าไม่ต่างจากเล่มอื่นๆ ที่เคยอ่าน
แต่ด้วยนิสัยขี้สงสัยเลยซื้อมาอ่านดู
บอกเลยว่า ….. ดีมากเลยครับ
หนังสือเล่มนี้บอกวิธีการ
ที่สามารถเอาไปใช้ได้จริง
และมีคนที่ใช้หลักการนี้มากมาย
แต่ชื่อเรียกอาจจะต่างกันไป
สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
Story Teller
Show Your Work
Personal Branding
อะไรประมาณนี้ครับ
แต่ที่หนังสือเล่มนี้ต่างไป
เพราะให้รายละเอียดเล็กๆ
ที่สำคัญมากสไตล์หนังสือญี่ปุ่น
สรุปสามขั้นตอนการฉุดธุรกิจ
เลือกหัวข้ออ่าน
1. เปิดโนว์ฮาว
คล้ายๆ กับหนังสือ Show Your Work
สอนให้รู้จักการมองหาเรื่องเล่า
และมีตัวอย่างให้เราเห็นภาพว่า
ทำไมการเปิดเผยองค์ความรู้บางอย่าง
กลับทำให้เราขายได้ดีขึ้น แพงขึ้น
ก้าวพ้นสงครามราคาไปได้
เพราะการเปิดเผยเรื่องราวนี้
ทำให้เกิดความเชื่อใจ ความไว้ใจ
และจะกลายเป็นระบบที่ทำให้
ลูกค้าวิ่งเข้าหาธุรกิจของคุณเอง
อ่านหนังสือแปลจากญี่ปุ่น
จะมีความสนุกตรงตัวอย่างครับ
เล่ากันละเอียด เห็นภาพกันเลย
- ทำให้ลูกค้าทราบข้อมูลเชิงลึก
- ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ
- ใครๆ ก็บอกว่าดีกว่า แต่เชื่อใครได้บ้าง
- การเปิดโนว์ฮาว ทำให้ลูกค้ามั่นใจสิ่งที่เราพูด
- สอนวิธีใช้ คือ การสร้างแฟนคลับ
- เปลี่ยนลูกค้า คนขาย กลายเป็น แฟนคลับ
- ไม่ใช่แค่การมีความรู้ แต่ต้องถ่ายทอดได้
- เพื่อประโยชน์ของลูกค้า ก่อนของตัวเอง
- การที่ธุรกิจยอมเข้าสู่สงครามราคา นั่นคือ การยอมรับว่าโนว์ฮาวไม่มีค่าพอ ไม่มีราคา จึงต้องยอมลดราคา
- โนว์ฮาวคือจุดแข็ง คิดให้ดีว่าจะใช้มันสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร ให้คิดเริ่มจากว่า มันสร้างประโยชน์อะไรให้ลูกค้าได้บ้าง
- กำหนดผลลัพธ์ในการสื่อสาร ในการเปิดเผยโนว์ฮาวแต่ละครั้ง ว่าจะสื่อสารอย่างไร และหวังผลอะไร
ประโยชน์ของการเปิดเผยโนว์ฮาว
1. ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมอื่น
2. เปลี่ยนคู่แข่งกลายมาเป็นคู่ค้า
3. ลดการถูกเคลมจากการเข้าใจผิด
4. ไม่ต้องลงทุนเพราะคุณมีอยู่แล้ว
สำรวจโนว์ฮาว
1. เรื่องอะไรที่ลูกค้าร้องเรียนมากที่สุด ( การเคลม > ระบุปัญหา > วิธีแก้ปัญหา > โนว์ฮาว ) สิ่งที่สำคัญกว่าการจะพูดอะไร คือ จะพูดลำดับอย่างไร
2. บริษัทมีคู่มือที่อ่านรู้เรื่องใน 3 วินาทีหรือไม่ คู่มือไม่ได้มีไว้อ่าน มีไว้ดู ตรงนี้จะเป็นเนื้อหาหลักที่มากจากโนว์ฮาวของคุณเอง
3. งานที่ต้องใช้มือคนในการทำคือส่วนไหน ส่วนนั้นจะเป็นขั้นตอนสร้างคุณค่า ที่คุณต้องค้นหาให้เจอ และนำเสนอออกมาให้ได้
การเปิดเผยโนว์ฮาวให้ทรงพลัง
1. ใส่ตัวเลขลงไป
2. ใส่ชื่อเฉพาะลงไป
3. ใส่เนื้อหาที่ทำให้ อ้อ … เข้าใจแล้ว
เครื่องจักรสร้างสินค้า มือคนสร้างคุณค่า
2. สร้างชุมชน
ถ้าหัวข้อที่เราเผยแพร่ความรู้ไป
เกิดผู้ติดตามขึ้น มีคนสนใจมากขึ้น
อาจจะเป็นกลุ่มว่าที่ลูกค้า หรือคนทั่วไป
สุดท้ายจะเกิดเป็นกลุ่ม เป็นชุมชน
ยิ่งบนโลกออนไลน์ มี Group ต่างๆ มากมาย
ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างชุมชนของตัวเองได้
และต่อยอดจากลูกค้า เป็นแฟนคลับตัวจริงได้
ใครที่กำลังสร้างกลุ่ม สร้างชุมชน
แนะนำให้อ่านด่วน ๆ เลยครับ
มีเทคนิค หลายข้อที่เอาไปใช้ได้
ทำให้ชุมชน เป็นพลังที่เข้มแข็งได้จริง
หัวใจสำคัญข้อหนึ่งคือ
เมื่อเปิดเผยโนว์ฮาวไประดับหนึ่ง
ว่าควรสร้างชุมชนขึ้นเพื่อให้ข้อมูล
ที่ลึกขึ้น เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
และชุมชนนี้เองที่จะทำให้เกิด
การแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างไม่สิ้นสุด
เปลี่ยนความสัมพันธ์ใหม่
จาก B2B เป็น B with B
จาก B2C เป็น B with C
3. สร้างแบรนด์
ในยุคนี้ ใครๆ ก็สอนให้สร้างแบรนด์
เราจึงเห็นธุรกิจมากมายให้ความสำคัญ
กับเรื่องสี โลโก้ อักษร ของแบรนด์
แต่ถามว่า คน อื่น เขาสนใจอะไร
เขาสนใจคุณค่าของธุรกิจมากกว่าครับ
ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการสื่อสาร
ให้เกิดการรับรู้โนว์ฮาว ข้อมูลบางอย่าง
จนก่อให้เกิดรวมตัวเป็นชุมชนขึ้นมา
แบรนด์ ก็จะเกิดตามมาอย่างแน่นอน
- ถ้าของที่คุณขายไม่มีแบรนด์ จะต้องแข่งที่ราคา
- จะมีแต่คนขายถูกกว่าเท่านั้นที่จะรอด
- การสร้างแบรนด์ = การสร้างคน
- คนที่ทำงานกับบริษัท สินค้าที่มีแบรนด์ จะมีพลัง มีไฟ มีกำลังใจมากกว่าคน
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์
1. เรียกความสนใจด้วยข้อมูล
2. ดึงดูดด้วยสินค้า
3. ทำให้หลงใหลด้วยสื่อ
#สรุปสามข้อที่ดูธรรมดามาก
ใครที่อ่านหนังสือธุรกิจมาบ้าง
ย่อมพอจะมองหลักการนี้ออก
แต่น้อยยิ่งกว่าน้อยที่ทำจริงจัง
ลองดูเพจดังๆ ที่ให้ความรู้เฉพาะเรื่อง
จนกลายเป็นแบรนด์ เป็น influencer
หรือสินค้าที่มีกลุ่มแฟนคลับ
จนกลายเป็นแบรนด์ที่เข้มแข็ง
ล้วนเริ่มต้นจาก Story บางอย่าง
แล้วนำเสนออย่างต่อเนื่อง
ตัวคุณเอง ธุรกิจของคุณก็เช่นกันครับ
มองหา ชุดข้อมูลนี้ให้เจอ แล้วนำเสนอ
เล่าออกมาให้เกิดประโยชน์กับคนอ่าน
ไม่ต้องรอให้อยู่ปากเหว
ก็ใช้หลักการของหนังสือเล่มนี้
ช่วยนำทางไปสู่ความสำเร็จได้ครับ
การอ่านหนังสือนั้น
บางครั้งก็ไม่ใช่เพราะข้อมูลใหม่
ที่จะช่วยให้คุณคิดหาทางออกได้
แต่อาจเป็นเรื่องเก่าที่เล่าในอีกมุม
ที่ทำให้คุณ…พบเคล็ดลับได้
ฉุดธุรกิจปากเหวให้ฟื้นคืนชีพ
อ่านสรุปหนังสือเพิ่มเติม
ถ้าอยากขายซุป ต้องขายขนมปังด้วย (เหรอ)
ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน