สำหรับคนทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ การตั้งราคางาน ของตัวเองเป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อย เพราะต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งคุณค่าของงาน เวลาและแรงที่เราลงไป ตลอดจนอัตราตลาดและคู่แข่ง หากตั้งราคาต่ำเกินไป เราอาจรู้สึกไม่คุ้มค่า แต่หากตั้งราคาสูงเกินไป ก็อาจจะหางานยาก วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก ที่จะช่วยให้ตั้งราคางานได้อย่างเป็นธรรมทั้งกับตัวเองและลูกค้า
1.ประเมินคุณค่าที่เราให้กับลูกค้า
ก่อนตั้งราคา ให้ถามตัวเองว่างานที่เราทำให้ลูกค้านั้น สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับเขามากแค่ไหน ยิ่งเราสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มาก เราก็สามารถตั้งราคาได้สูงขึ้นเท่านั้น จงอย่ามองข้ามคุณค่าที่เรามอบให้
“ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้” – Warren Buffett
2.รู้จุดแข็งและความโดดเด่นของตัวเอง
ก่อนตั้งราคา ลองนึกดูว่าเรามีจุดเด่นหรือข้อได้เปรียบในการทำงานชิ้นนี้อย่างไรบ้าง อาจจะเป็นประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผลงานที่โดดเด่น ความรวดเร็ว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณค่าที่ลูกค้ายินดีจ่ายแพงกว่าให้เรา
“รู้จักคุณค่าในตัวเอง แต่อย่าตีค่าตัวเองเกินจริง”
3.คำนวณเวลาและค่าใช้จ่ายให้รอบด้าน
การตั้งราคาที่ดี ควรพิจารณาทั้งเวลาที่เราต้องใช้ในการทำงานนั้น รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ค่าจ้างผู้ช่วย ฯลฯ อย่าลืมคิดค่าแรงต่อชั่วโมงของเราเองด้วยนะ
“ไม่มีใครอยากทำงานแบบขาดทุน ขาดทุนที่สุดก็คือการขาดทุนกับเวลาของตัวเอง” – Jack Ma
4.ศึกษาราคาตลาดและคู่แข่ง
ลองสำรวจราคาของคนอื่น ๆ ที่รับงานแบบเดียวกับเรา ทั้งคู่แข่งโดยตรงและราคาตลาดโดยทั่วไป การเทียบเคียงจะทำให้เรามองเห็นภาพรวม ว่าควรตั้งราคาอยู่ในช่วงไหนจึงจะแข่งขันได้ แต่ก็อย่าลืมว่าเราไม่จำเป็นต้องตั้งราคาต่ำสุดเสมอไป ตราบใดที่เรามีข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด
“แข่งขันได้ด้วยคุณภาพ ไม่ใช่ราคาถูก” – Bernard Arnault
5.มองหาโอกาสในการต่อรองราคา
บางครั้งลูกค้าอาจขอต่อรองราคา ให้พิจารณาดูว่าเรายังมีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ที่พอจะยืดหยุ่นได้ เช่น ลดขอบเขตงานลงนิด ขยายเวลาทำงานออกไป หรือเสนอข้อตกลงพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ การต่อรองที่ดีคือการหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย
“อย่าลดราคา แต่จงสร้างคุณค่าเพิ่ม” – Amit Kalantri
6.อย่ากลัวที่จะปรับราคาเมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อเราทำงานไปสักพัก ฝีมือและประสบการณ์ย่อมพัฒนาขึ้น ลูกค้าเก่าอาจมากขึ้น การันตีผลงานได้มากขึ้น การขึ้นราคาเป็นเรื่องปกติ ที่สะท้อนการเติบโตในอาชีพการงาน ขอแค่อย่าขึ้นราคาถี่หรือกระทันหันเกินไปจนลูกค้าตกใจ
“การขึ้นราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับคุณค่าที่มากขึ้น”
7.มั่นใจในราคาของตัวเอง
สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องมั่นใจและพร้อมยืนหยัดในราคาที่ตั้งไว้ ไม่ควรลดราคาหรือต่อรองจนเกินควร จนรู้สึกไม่เป็นธรรมกับตัวเอง เพราะมันอาจทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขในระยะยาว จงจำไว้ว่าเราสมควรได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมกับคุณค่าที่เรามอบให้
“จงอย่าขายของในราคาถูก แต่จงขายตัวเองให้แพง”
การตั้งราคางานเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการฝึกฝน ลองผิดลองถูก ใช้ประสบการณ์และสายใยกับลูกค้าเป็นตัวช่วย ที่สำคัญ อย่าลืมทำงานด้วยใจรักและทุ่มเทเต็มที่ เพราะเมื่อเราส่งมอบงานคุณภาพ ราคาที่เหมาะสมย่อมตามมาเอง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จ และสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่รัก ในราคาที่ภูมิใจนะครับ
“จงตั้งราคาอย่างฉลาด ทำงานอย่างหนัก รักในสิ่งที่ทำ แล้วปล่อยให้ชีวิตจัดสรรส่วนที่เหลือให้”