หลายคนอาจมองว่าอาชีพนักเขียนเป็นอาชีพง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดครับ ใครก็สามารถจะทำอาชีพนี้ได้ทั้งนั้น แต่จะทำได้ดีขนาดไหน จะอยู่ได้นานแค่ไหน และจะสามารถทำให้งานเขียนกลายเป็นงานเลี้ยงชีพทำให้เรามีความสุขได้ไหมนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น สำหรับใครก็ตามครับที่อยากลองเดินอยู่บนถนนสายอาชีพนี้ดู วันนี้เราจะพาไปพบกับ 4 หัวใจสำคัญหลักๆ ของอาชีพนักเขียน ที่เราต้องยึดมั่นไว้ เพื่อให้มีโอกาสเป็นนักเขียนได้ดีอย่างที่เราตั้งใจ
1. รักที่จะเขียน
เรียบง่าย ธรรมดา แต่เป็นความจริงที่งดงามเสมอ เพราะถ้าเราไม่มี “ความรัก” ที่จะเขียนแล้ว ก็คงไม่มีทางที่เราจะอยู่บนสายอาชีพนี้ได้สำเร็จ จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่กับอาชีพงานเขียนหรอกครับ แต่มันคือทุกงานทุกอาชีพเลย ที่ถ้าเราไม่รักในสิ่งที่ทำ ก็คงเป็นไปได้ยากที่จะอยู่กับสิ่งนั้นได้นาน และพออยู่ได้ไม่นาน เราก็ไม่มีวัยไปถึงเป้าหมาย ไม่มีวันเห็นผลลัพธ์จากมันได้แน่ๆ
ลองเช็คตัวเองดูนะครับว่า เรารักที่จะเขียนไหม เราอดทนอยู่กับหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ที่ว่างเปล่าได้นานแค่ไหน เรารู้สึกดีที่ได้เขียนได้เล่าบอกอะไรไหม ถ้าใช่ นั่นก็มีแนวโน้มว่าเรามีความรักที่จะเขียนอยู่ในหัวใจครับ ทั้งนี้ ถ้ารู้สึกเบื่อ รู้สึกท้อ หรือรู้สึกทรมาน ก็อย่าเพิ่งตีความว่าเราไม่รักมันนะครับ เพราะบนเส้นทางความรักน่ะ มันไม่ได้ราบรื่นทุกอย่างอยู่แล้ว ดังนั้น จงให้เวลากับการเขียนดูสักหน่อย แล้วค่อยๆ ถามใจตัวเองดูว่า เรารักและจริงจังกับมันแค่ไหน เชื่อครับว่ายังไงไม่นานเราจะได้คำตอบเองว่า เราควรจะอยู่บนเส้นทางสายอาชีพนี้ต่อไป หรือว่าเดินออกไปหาสิ่งที่ใช่จริงๆ ให้กับตัวเอง
2. รับผิดชอบในสิ่งที่เขียน
งานเขียนก็เหมือนลูกของนักเขียนครับ มันคือผลงานของเรา มันคือการกลั่นกรองทางความคิดของเรา ดังนั้น เราจึงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราเขียนไปทั้งหมด ต่อให้เราไปเอาข้อมูลมาแล้วดันไม่รู้ว่ามันเป็นข้อมูลเท็จ เราก็ต้องรับผิดชอบครับ เราจำเป็นต้องน้อมรับคำวิจารณ์ ทั้งติ ทั้งชม เพื่อปรับปรุงตัวเราเอง ปรับปรุงงานเขียนของเราเองให้ดีขึ้น หลายคนอาจรู้สึกว่างานเขียนไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงแล้วงานเขียนคือตัวตนของเราล้วนๆ สิ่งที่ผู้คนอ่าน เขาจะตีความว่ามันคือเรา
ดังนั้น การรับผิดชอบในสิ่งที่เขียนจึงสำคัญมาก เพราะมันทำให้เราตระหนักรู้ว่า เราต้องซื่อสัตย์ ต้องรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และคนอ่าน ต้องเขียนในสิ่งที่จรรโลง เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ให้โทษ หรือทำลายความแตกแยกในสังคม งานเขียนเป็นงานที่มีพลังมากกว่าที่ใครหลายๆ คนคิด เพราะงานเขียนคือสื่อที่ไม่มีวันตายไปจากโลก สงครามเกิดขึ้นได้เพราะประวัติศาสตร์ที่คนเขียน เพราะคำบอกเล่าที่ถูกเขียนส่งและบอกต่อ งานเขียนมีพลังมากกว่าที่ใครจะจินตนาการ มันเป็นได้ทั้งอาวุธร้าย และเป็นพรวิเศษที่ใช้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จงตระหนักให้ดีว่าเรากำลังทำในสิ่งทียิ่งใหญ่ เราจึงต้องรับผิดชอบสิ่งที่เราทำให้มากที่สุดด้วย
3. มีวินัยในการเขียน
เส้นทางของอาชีพนักเขียนนั้นยาวไกลเสมอ กว่าคนหนึ่งคนจะเขียนงานออกมาแล้วเป็นที่ยอมรับ กว่าผลงานจะเป็นที่เข้าตาและทำรายได้ได้ ล้วนต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ดังนั้น หากเราไม่มีวินัยมากพอที่จะทำให้ตัวเองเขียนงานได้สม่ำเสมอ ความสำเร็จก็จะยิ่งเกิดขึ้นได้ยากและช้าเข้าไปอีก
งานเขียนเหมือนการทำความรู้จักกับผู้อ่านครับ ยิ่งผู้อ่านได้มีโอกาสอ่านงานเรามากเท่าไร เขาก็จะยิ่งรู้จักเรามากขึ้นเท่านั้น และพอรู้จักมากขึ้นนั่นแหละครับ งานของเราก็จะเป็นที่นิยมมากขึ้น เหล่าบรรดาปรมาจารย์นักเขียนทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญกับวินัยในการเขียนมาก พวกเขาให้เวลาหลายชั่วโมงต่อวัน หรือบางคนก็ทั้งวันในการฝึกเขียน ในการคิดเขียน เพื่อผลิตงานออกมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิยาย เรื่องสั้น บทความ บทวิจารณ์ แต่ละงานล้วนใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างหนัก
ดังนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จในสายอาชีพนักเขียน วินัยคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละทิ้งอย่างเด็ดขาด เพราะโอกาสความสำเร็จของนักเขียน มีวินัยเป็นตัวผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
4. กล้าที่จะเขียน
อาจดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะครับว่า หลายคนที่คิดอยากเป็นนักเขียน มีอันต้องล้มเลิกไปเพราะไม่กล้าที่จะเขียน ด้วยความกลัวว่าจะเขียนออกมาไม่ดี ด้วยความกลัวคำวิจารณ์จากคนอ่าน ด้วยความกลัวว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ใช่นักเขียน สารพัดความกลัวที่ถาโถมเข้าใส่จนทำให้เราไม่กล้าที่จะลงมือลองทำ ก็เลยพาตัวเองให้ห่างไกลออกจากความฝันที่จะเป็นนักเขียน จริงๆ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเขียนเลยนะครับ สำหรับการที่จะต้องมีความกล้าคิด กล้าจินตนาการ และกล้าที่จะเรียบเรียงถ่ายทอดมันออกมาเป็นงานเขียน จากนั้นก็ต้องกล้าที่จะเผยแพร่งานเขียนของเราออกไป มันคือข้อบังคับของนักเขียนทุกคน เพราะถ้าเราไม่กำจัดความกลัวต่างๆ ทิ้ง เราก็จะไม่มีวันได้เริ่มต้น และเริ่มเดินทางในสายอาชีพนี้เลย
ดังนั้น ถ้าวันนี้เราตัดสินใจแล้วว่าอยากจะลองเดินบนเส้นทางสายอาชีพนี้ดู ก็ขอให้ทิ้งความกลัวไปครับ แต่ถ้าทิ้งไม่ได้ก็แค่เอาความกลัวหลบไว้ข้างหลัง แล้วเอาความกล้าขึ้นมานำ ทำมันทั้งๆ ที่กลัวนั่นแหละครับ แล้วพอได้ทำไป ได้ลงมือทำจริง เราจะค่อยๆ เริ่มหายกลัวไปทีละนิดๆ และมีความกล้ามากพอที่จะทำต่อ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเราเองเหมาะกับสายอาชีพงานเขียนนี้มากแค่ไหน
การเขียนเป็นทักษะที่ใครๆ ก็ฝึกได้ครับ เราทุกคนไม่ว่าจะเรียนจบมาจากคณะอะไร สาขาวิชาอะไร ก็เคยเรียนรู้วิธีการเขียนบทความ การเขียนเพื่อการสื่อสารกันมาทั้งนั้น แต่สำหรับคนที่จะเป็นนักเขียนได้ ก็คือคนที่มุ่งมั่นฝึกฝนที่จะเขียนมากกว่าคนอื่น คือคนที่ทำมันเป็นกิจวัตร รักที่จะทำ รับผิดชอบในสิ่งที่เขียน มีวินัยกับมัน และกล้าคิดกล้าเขียนออกมา ทำอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ยึดเป็นอาชีพ
อาจจะเริ่มจากอาชีพเสริมก่อน แล้วไปจบลงที่กลายเป็นอาชีพหลักก็ได้ ทุกคนสามารถเขียนได้ครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นนักเขียนได้ ซึ่งเราจะสามารถเป็นได้ไหม เป็นได้นานแค่ไหน และมีความสุขกับงานเขียนกับอาชีพนักเขียนได้มากแค่ไหน ไม่มีใครสามารถตอบได้ดีที่สุดครับ นอกจากตัวเราเองที่ต้องพิสูจน์ด้วยการลองเขียนดู…ตั้งแต่วันนี้
แนะนำบทความเกี่ยวกับการเขียน
- การเขียนบทความคุณภาพควรยาวแค่ไหน
- เขียนบทความลงเพจอย่างไรให้ขายของได้
- Story Telling กำไรร้อยเท่าแค่มีเรื่องเล่าที่โดนใจ
- เสียดายคนเป็นนักเขียนไม่ได้อ่าน เทคนิคจากคุณดังตฤน
Add friend Line@ Work360
รับฟรี Ebook สรุปหนังสือ 3 เล่ม
พร้อมเข้ากลุ่มเรียนฟรีการตลาดออนไลน์
ทั้ง Facebook YouTube Website
☑️ U R a Brand
☑️ Follow Your Heart
☑️ ขโมยให้ได้อย่างศิลปิน
รับฟรีคลิกเลย https://line.me/R/ti/p/%40work360
