คุณเคยซื้อสินค้าโดยพิจารณาจากคุณภาพหรือไม่? บ่อยครั้งที่คุณคิดที่จะจ่ายเงินให้กับสินค้ารุ่นใหม่ๆที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาด อาทิเช่น iPhone, รองเท้ารุ่นใหม่ แต่อาจลืมคำนึงถึงคุณภาพ และความคุ้มค่าที่จะได้รับนั้นเลย
หากคุณเคยพบสินค้าราคาแพงที่ได้มาไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง อาจเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตได้ใช้กลยุทธ์ในการตั้งราคา เพื่อต้องการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภคนั่นเอง
กลยุทธ์การตั้งราคาสูง คืออะไร
การตั้งราคาสูง คือการกำหนดราคาจำหน่ายสินค้าให้สูงกว่าคู่แข่ง เพื่อบ่งบอกระดับฐานะของผลิตภัณฑ์และเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ และยังเป็นเครื่องแสดงฐานะทางสังคมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น, เทคโนโลยี หรือสินค้ามูลค่าสูงต่างๆ นิยมตั้งราคาสูง เพื่อทำให้สินค้านั้นๆพิเศษ หายาก และเป็นที่ต้องการมากขึ้น
บริษัทชั้นนำที่ใช้กลยุทธ์การตั้งราคามาใช้ ได้แก่
1.Apple : เนื่องจากเป็นสินค้าไฮเทค ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ดังนั้นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Apple จึงตั้งราคาสูงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับตนเอง ทำให้ผู้บริโภคคิดว่าสินค้าที่มีราคาสูง น่าจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพนั่นเอง
2.Nike : ด้วยการนำเสนอผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Michael Jordan, Serene Williams.. ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ดังนั้นการตั้งราคาจึงเป็นไปตามภาพลักษณ์ที่เห็น ยิ่งเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงสวมใส่ ยิ่งทำให้สินค้าขายดียิ่งขึ้นอีกด้วย
3.Rolex : ผู้ผลิตนาฬิกาสุดหรูราคาแพง และเป็นเครื่องประดับที่สะท้อนรสนิยม, ฐานะ และการลงทุนของผู้สวมใส่
กลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของบริษัท รวมทั้งการสำรวจราคาตลาดของคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน ซึ่งหากคุณต้องการความแตกต่างทางฐานะของผลิตภัณฑ์ ก็อาจจะตั้งราคาให้สูงเข้าไว้ แต่การตั้งราคาสูง จะต้องมาพร้อมกับความแพง ความดูดี ด้านดีไซน์ การออกแบบ และจะต้องวางเป็นกลยุทธ์ระดับองค์กรเลย ทุกการสื่อสาร สินค้าและบริการต่าง ๆ ในองค์กร จะต้องมุ่งเน้นในแนวทางเดียวกัน
คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ๆ ถ้าหากองค์กร บริษัทของเราขายแต่ของราคาถูก เน้นถูก เน้นคุ้มค่า แล้วอยู่ดี ๆ จะก้าวไปเล่นตลาดราคาแพง เพราะการขายของแพง เป็นการขายอะไรที่มากกว่าฟังก์ชั่นการใช้งานนั่นเอง เป็นการขายภาพลักษ์ และความน่าเชื่อถือ แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ในจิตใจของผู้บริโภค ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ เลือกที่จะทำแบรนด์ใหม่แทน
การตั้งราคาแบบอาศัยหลักจิตวิทยา เพื่อดึงดูดผู้บริโภค จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกตื่นเต้นและยังช่วยเพิ่มยอดขายอีกด้วย เช่น หากสินค้าราคา 200 การตั้งราคาอย่าง199 น่าจะดึงดูดมากกว่า ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้ซื้อสินค้าราคาถูก เพราะส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับตัวลขด้านหน้ามากกว่าด้านหลังนั่นเอง
โดยข้อควรระวัง คือ ถ้าต้องการตั้งราคาให้ดูแพง ดูมีระดับ อย่าใช้เทคนิค ทศนิยม เช่น 199.99 ควรตั้งเป็น 199 จะดีกว่า