เลือกหัวข้ออ่าน
เลิกเป็นตัวเลือก
สรุปหนังสือ เลิกเป็นตัวเลือก choose yourself หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับแนวพัฒนาตัวเองแต่ก็ไม่ใช่เป็นแนวฮาวทูซะทีเดียว ไม่ได้มีแบบทางลัดหรือว่ารูปแบบเคล็ดลับความสำเร็จ ที่เป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้คุณเอาไปใช้ได้ 1 2 3 4 แต่เป็นหนังสือที่รวบรวมแนวคิดของผู้เขียน น่าจะประมาณว่ามีการเขียน blog บทความเป็นประจำและเอามารวมเล่มเป็นหนังสือเล่มนี้มากกว่า
Concept ของหนังสือเล่มนี้ “เลือกตัวเอง” ก็คือเขาจะแนะนำให้เรารู้จักเลือกตัวเองนะครับ ให้ความสำคัญกับตัวเองมากที่สุด แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นเลือกเรา เราจะต้องมีกลยุทธ์วิธีการคิดแบบไหนที่จะทำให้สิ่งที่เราทำในแต่ละวัน สิ่งที่เราทำประจำทุก ๆ วัน เป็นสิ่งสนับสนุนให้ตัวเองมีคุณค่ามากที่สุด โดยที่การจะคิดแบบนั้นได้ นั่นแปลว่าคุณจะต้องคิดถึงตัวเองก่อนเลือกตัวเองก่อนเสมอ
ในมุมมองของผมแล้วนั้นคำว่า เลิกเป็นตัวเลือก อาจจะไม่ใช่คำที่แสดงความหมายของหนังสือเล่มนี้ได้ดีนัก จริง ๆ แล้วในยุคปัจจุบันนั้น เราจะต้องทำให้เป็น ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับว่าที่ลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเราต้องการให้ตัวเองดี ให้ตัวเองมีความสุข ให้ตัวเองประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่น
หนังสือเล่มนี้อาจจะมองในมุมที่การพัฒนาตัวเอง โดยมุ่งตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ในความเป็นจริงในทางปฏิบัติแล้ว เราจะต้องทำทั้ง 2 ทาง คือทำให้ตัวเองเป็นคนที่น่าสนใจ เป็นคนที่มีคุณค่า แต่ก็ต้องตอบสนองกับตลาดได้ ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้า ซื้อบริการ หรือจะเป็นคนที่ร่วมงานกับเรา
และนี่คือข้อคิดที่ผมสรุปมานะครับลองติดตามกันเลยว่ามีข้อไหนโดนใจเพื่อนๆบ้าง
ข้อคิดที่ได้จาก Choose Yourself
ในยุคสมัยใหม่นี้คุณมี 2 ตัวเลือก คือเป็นคนทำงานชั่วคราว หรือไม่ก็เป็นผู้ที่ริเริ่มกิจการขายได้ ทำงานตัวเอง หรือ เลือกให้ตัวเองเป็นผู้สร้างสรรค์ + ผู้สร้างนวัตกรรม + ศิลปิน + นักลงทุน และ เป็นนักการตลาด โดยคุณอาจจะต้องเป็นทุกอย่างตามที่บอก ไม่ได้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ข้อปฏิบัติประจำวัน เป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญมากขึ้น ในวัยเด็กนั้นชีวิตเราค่อนข้างจะดูเรียบง่าย นั่นเพราะว่าเรามีตารางเรียนที่ชัดเจน แต่พอเติบใหญ่ขึ้นเรากลับพบว่า เรื่องราวในชีวิตกับวุ่นวายไปหมด นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่จัดตารางเวลาให้กับชีวิตเลยนั่นเอง
เราเติบโตมาในสังคม ที่สอนให้เรารู้สึกว่าการทำอะไรให้ตัวเองนั้น เป็นเรื่องยากลำบากมาก เป็นเรื่องที่เหมือนกับจะต้องขออนุญาตใครสักคนนึงก่อนที่เราจะมีความสุขได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เป็นอย่างนั้นเลย
เคล็ดลับประการหนึ่งในการทำให้ตัวเองดีขึ้นแบบง่ายที่สุด ก็คือลองช่วยทำให้คนรอบข้างมีความเป็นอยู่มีชีวิตที่ดีขึ้น ลองทำให้คนจำนวนมากเท่าไหร่มีความสุขมากขึ้น คุณก็จะยิ่งประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเช่นกัน
จงเลือกทำตัวให้เป็นเหมือนมหาสมุทร ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองทำ ส่งพลังแผ่กระจายออกไปเหมือนวงคลื่น ขยับเคลื่อนแผ่นดินหนุนให้ชีวิตของคุณ และทุกคนรอบข้างดีงามขึ้น
การทุ่มเททำตามข้อปฏิบัติประจำวัน จะช่วยปรับปรุงชีวิตของเราให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าคุณจะสังเกตเห็นแค่ทีละนิดเท่านั้น แต่สิ่งดีๆที่คุณสะสมเอาไว้ จะค่อยๆสะสมมากขึ้นทุกชั่วขณะ และก็จะขจัดขยะส่วนเกินที่คุณแบบติดตัวไว้
แทนที่จะมองหาไฟ แรงบันดาลใจจากภายนอก ให้เปลี่ยนเป็นจุดไฟจากข้างในให้โชติช่วง จนไม่มีทางมอดดับ แล้วชีวิตคุณจะพบแสงสว่างตลอดไป
ไฟชนิดเดียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตได้จริง ก็คือไฟในตัวคุณเอง ไม่มีอะไรภายนอกที่หล่อเลี้ยงได้ ยิ่งไฟในตัวคุณลุกโชติช่วงก็ยิ่งมีคนต้องการคุณ
เท่าที่คุณต้องทำจริง ๆ เพื่อให้ลุกขึ้นตั้งหลักได้ คือยอมรับเสียก่อนว่าชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากภายนอก แต่ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นจากภายในต่างหาก
ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องศึกษาความสำเร็จ ไม่ใช่เกียจหรืออิจฉามัน ยิ่งคุณอิจฉาคนที่สำเร็จ คุณก็จะยิ่งห่างไกลและไปถึงความสำเร็จได้ยากขึ้นเยอะ อย่าอิจฉาคนอื่น อย่าคิดว่าใครเขาโชคดี โชคสร้างได้ด้วยการเตรียมตัวที่ดีพอ
จงขายสิ่งที่ตัวเองรัก ให้แก่คนที่คุณรักชอบเท่านั้น ให้คิดเสมอว่าภาพรวมตรงนี้คืออะไร อย่ามัวแต่ต่อรอง เพราะว่าการต่อรองกับการขายมักจะไปด้วยกันไม่ค่อยได้
ถ้าคิดถึงสิ่งที่คุณต้องการ ตั้งแต่ 5 ขวบเป็นต้นมาแล้ว คุณจะประหลาดใจว่าช่างเยอะอะไรมองเห็นอย่างนี้แล้วมีสักกี่วิธี ที่จะคุณจะหยิบสิ่งเหล่านั้น มาผสมกันให้แตกเกิดเป็นไอเดียใหม่ ๆ เป็นความหลงใหลที่ก่อเกิดธุรกิจขึ้นได้
การเป็นคนธรรมดา ๆ ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงโลก แต่หมายถึงการซื่อสัตย์กับตัวเอง และคนรอบข้าง และความซื่อสัตย์ทุกระดับ ก็คืออุปนิสัยที่ได้ผลดีที่สุดจริง ๆ หากคุณอยากประสบความสำเร็จในระดับสูง
การจะเลือกตัวเองได้ ก่อนอื่นคุณจะต้องไร้ซึ่งความกลัว ต้องรู้ว่าความสมบูรณ์พูนสุขมีอยู่ทุกที่ ไม่เพียงแค่หลบซ่อนหลังหน้ากาก ที่คุณใส่โชว์ให้ใครๆเห็นว่าเก่ง
ไม่ว่าคุณจะทำสิ่งใด จะมีคน 30% ยินดีกับคุณ อีก 30% ไม่ชอบคุณ และอีก 30% จะไม่สนใจอะไรคุณเลย ขอให้อยู่เคียงข้างคนที่รักคุณ ยินดีกับคุณ อย่าเสียเวลาซักวินาทีกับคนอื่นนอกนั้น รับรองชีวิตดีขึ้นแน่
พลังอันยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นกับคุณได้ทันที ที่คุณเริ่มต้นถามตัวเองว่า วันนี้ฉันจะช่วยชีวิตใครได้บ้าง นั่นคือคำถามง่าย ๆ ที่ทำให้คุณกลายเป็นซุปเปอร์แมนสำหรับใครบางคนได้ในที่สุด
ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเรา อย่างที่เราต้องการทั้งหมด แต่เราต้องหัดยอมรับมัน แล้วเดินหน้าทำงานชิ้นใหม่ต่อไป
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใด อย่าลืม ทำตัวเองให้มีคุณค่า เพื่อที่จะได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่แม้แต่คุณก็อยากเลือก ตัวคุณเอง